จัดงานประเพณี”ปรางค์กู่สวนแตง”สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 อายุกว่า 1,000 ปี 

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม นายปิยะ  ปิจะนำ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์  เป็นประธานเปิดการแสดง แสง สี เสียง ชุด  “อัปสรัญญา มายาสวรรค์” ในงานประเพณีปรางค์กู่สวนแตง ประจำปี 2566 ที่ทางอ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น   ส่วนราชการ และภาคเอกชนในพื้นที่จัดขึ้น ที่บริเวณปรางค์กู่สวนแตง ต.กู่สวนแตง  อ.บ้านใหม่ไชยพจน์

ทั้งนี้ เพื่อร่วมอนุรักษ์โบราณสถานปรางค์กู่สวนแตงอันล้ำค่าเก่าแก่ซึ่งมีอายุกว่า 1,000 ปี อีกทั้งเป็นการเผยแพร่สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนในท้องถิ่นได้เกิดความรัก หวงแหน และรู้ถึงคุณค่าของโบราณสถานที่มีในท้องถิ่นของตนเอง และเกิดจิตสำนึกที่ดีในการอนุรักษ์โบราณสถานให้มีสภาพสมบูรณ์ และร่วมกันประชาสัมพันธ์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมโบราณสถานดังกล่าวให้เป็นรู้จักอย่างแพร่หลาย กิจกรรมภายในงานมีขบวนฟ้อนรำ ขบวนบั้งไฟอันสวยงามตระการตาจากทุกตำบลด้วย

  

นายเสกสรร  จันวงษา นายอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ เปิดเผยว่า การจัดงานประเพณีปรางค์กู่สวนแตงครั้งนี้เพื่อร่วมอนุรักษ์โบราณสถานอันล้ำค่าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มีอายุราวกว่า 1,000 ปี  สะท้อนให้คนในพื้นที่ได้เห็นว่าครั้งหนึ่งในอดีตเคยมีความเจริญรุ่งเรือง และสร้างจิตสำนึกให้คนรู้จักรักบ้านเกิด และร่วมอนุรักษ์หวงแหนโบราณสถานอันล้ำค่าแห่งนี้เอาไว้   ทั้งเพื่อเป็นการกระตุ้นส่งเสริมการท่องเที่ยวด้านโบราณสถานและสนองนโยบายท่องเที่ยว 365 วันของจังหวัด การจัดงานครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากทางจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ และยังได้รับการสนับสนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ด้วย

สำหรับ ปราสาทกู่สวนแตง หรือ ปรางค์กู่สวนแตง เป็นเทวาลัยในศาสนาฮินดู สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 โดยได้รับอิทธิพลจากศิลปกรรมสมัยนครวัดเป็นโบราณสถานอีกแห่งที่ถูกวางระเบิดจนองค์ปรางค์พังทลายลงมาเพื่อโจรกรรม ชิ้นส่วนปราสาทไปขาย ปรางค์กู่สวนแตงเป็นโบราณสถานศิลปะขอม ประกอบด้วยปราสาท 3 องค์ ก่อสร้างด้วยอิฐ ตั้งเรียงกันในแนวทิศเหนือ-ใต้  บนฐานศิลาแลงเดียวกัน อาคารทั้งหมดหันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีประตูเข้าเพียงประตูเดียวอีก 3 ด้าน ก่อเรียบทึบ ลักษณะเหมือนบานประตูปิดอยู่เรียกว่า ประตูหลอก ปราสาทประธานมีขนาดใหญ่แผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีมุขยื่นออกมาด้านหน้า

ตรงหน้าบันเหนือประตูหลอกทั้ง 3 ด้าน มีลักษณะยื่นออกมาและมีแผ่นหินรองรับ นักโบราณคดีคาดว่า พระปรางค์องค์นี้มีอายุประมาณ 1,000 ที่ปรางค์องค์ประธานกลางมีทับหลังเป็นรูปศิวะนาฏราช และเทพองค์อื่นเล่นดนตรีประกอบ เช่น พระนลตีกลอง พระพรมตีฉิ่ง พระอุมาถือไม้เท้าขาคน เป็นต้น ส่วนทับหลังด้านอื่นๆ สลักเป็นรูปเทวตำนานต่างๆ เช่น นารายณ์บรรทมสินธุ์ กุมารวตรา การกวนเกษียรสมุทร วามนาวตาร พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ รูปเทวดาทับเหนือเกียรติมุข ฯลฯ น่าเสียดายที่ทับหลังบางชิ้นถูกขโมยขายต่างประเทศ  แต่บางชิ้นก็ได้กลับคืนมา ปัจจุบันจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย จังหวัดนครราชสีมา

ข่าว/ภาพ : สุรชัย พิรักษา ผู้สื่อข่าวจังหวัดบุรีรัมย์

Message us