
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลโครงการ “1 ชุมชน 1 สรรพสามิต แชมเปี้ยน” รางวัลการประกวดความร่วมมือระหว่างสรรพสามิตพื้นที่และผู้ประกอบการสุราชุมชน ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนด้วยภาษีสรรพสามิต โดยมีนโยบายในการส่งเสริมและขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน ควบคู่กับการพัฒนาและยกระดับคุณภาพสุราชุมชนให้มีมาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน อีกทั้งให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เพื่อสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้ชุมชน ตามนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว และเศรษฐกิจชุมชน โดยกรมสรรพสามิตผนึกกำลังกับเครือข่ายต่างๆ ส่งเสริมและสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนและผู้ประกอบการ สนับสนุนและผลักดันโดยสรรพสามิตพื้นที่ เพื่อให้ชุมชนและผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งทุน แหล่งความรู้ด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการตลาด พลังงาน สิ่งแวดล้อม คุณภาพสินค้า และการผลิต
ดร. เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า กรมสรรพสามิตส่งเสริมแนวคิด สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล หรือ ESG เพื่อสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันและลดการใช้ก๊าซคาร์บอนของชุมชนและผู้ประกอบการ เพื่อเดินหน้าประเทศไทยสู่ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ตามนโยบายของรัฐบาล ภายใต้การกำกับดูแลของ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว และเศรษฐกิจชุมชน
ทั้งนี้ การที่กรมสรรพสามิตเดินหน้าสู่บทบาทใหม่ในการดำเนินนโยบายที่ให้ความสำคัญกับ ESG นอกจากจะเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับบริบทโลกแล้ว ยังเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่ส่งเสริมให้ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ด้วยการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว เดินหน้าประเทศไทยสู่ความยั่งยืน
สำหรับ การดำเนินภารกิจหน้าที่ของสรรพสามิต รวมถึงการส่งเสริมแนวคิด ESG จึงเป็นพื้นฐานสำคัญของการประกวดโครงการ “1 ชุมชน 1 สรรพสามิต แชมเปี้ยน” ซึ่งแทรกอยู่ในทุกมิติของกระบวนการผลิตสุราชุมชนของผู้ประกอบการที่เข้าประกวด โดยมีสรรพสามิตพื้นที่ให้การสนับสนุนและผลักดันในด้านต่าง ๆ ดังนี้
- ด้านสิ่งแวดล้อม : การบำบัดน้ำเสีย การจัดการของเสีย การส่งเสริมการคัดแยกขยะ และการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน
- ด้านสังคม: การจัดการข้อร้องเรียนชุมชน ความปลอดภัยในโรงอุตสาหกรรม และสุขภาพแรงงานและสุขอนามัยโรงอุตสาหกรรม
- ด้านธรรมาภิบาลและการกำกับดูแลที่ดี: แหล่งเงินทุน การทำบัญชีประจำวันและงบเดือนถูกต้อง การตรวจสอบแสตมป์ผ่าน Application Stamp อย่างสม่ำเสมอ
การประกวดในครั้งนี้ มีผู้ประกอบอุตสาหกรรมสุราชุมชนเข้าร่วมประกวด จำนวน 97 แห่ง แบ่งเป็นจากภาคเหนือ 19 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 22 แห่ง ภาคกลาง 40 แห่งและภาคใต้ 16 แห่ง โดยมีผู้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ 10 ราย แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทสุราแช่ชุมชน และประเภทสุรากลั่นชุมชน ประกอบด้วย
ประเภทสุราแช่ชุมชน
- วิสาหกิจเกษตรชุมชนปลอดภัยสูง จังหวัดฉะเชิงเทรา
- วิสาหกิจชุมชนกลุ่มชมภูมัลเบอร์รี่อินทรีย์ จังหวัดอุดรธานี
- บริษัท Chaesonwinery 2022 part จำกัด จังหวัดลำปาง
- วิสาหกิจชุมชนสวนพ่อพอเพียง จังหวัดกำแพงเพชร
- วิสาหกิจชุมชนสุราแช่ไร่โรงเรียนต่อยอด จังหวัดกระบี่
ประเภทสุรากลั่นชุมชน - ห้างหุ้นส่วนจำกัดบอสส์สปิริท จังหวัดชลบุรี
- บริษัท ออนโซล แลบ แอนด์ ดิสทิลลารี่ จำกัด จังหวัดสกลนคร
- วิสาหกิจชุมชนแก่งเสือเต้น จังหวัดแพร่
- วิสาหกิจเกษตรชุมชนปลอดสารพิษสามชุกตลาดร้อยปี จังหวัดสุพรรณบุรี
- วิสาหกิจชุมชนปักษ์ใต้ จังหวัดสงขลา
โดยรางวัลชนะเลิศประเภทสุราแช่ชุมชน ได้แก่ หจก.แจ้ซ้อนไวน์เนอร์รี่ 2022 จังหวัดลำปาง และรางวัลประเภทสุรากลั่นชุมชน ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนแก่งเสือเต้น จังหวัดแพร่
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต และเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต ได้ริเริ่มสร้างสรรค์โครงการ 1 ชุมชน 1 สรรพสามิต แชมเปี้ยน นี้ขึ้น สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในเรื่องของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนและเศรษฐกิจสีเขียว ในการสร้างรายได้และมูลค่าเพิ่ม รวมถึงยกระดับภูมิปัญญาไทยไปสู่วัฒนธรรมสร้างสรรค์ เพื่อส่งเสริม Soft Power ของประเทศ ในการยกระดับสินค้า OTOP ให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกด้วยสุราชุมชน ซี่งภายในงานนี้ ยังต่อยอดการส่งเสริมสุราชุมชน ด้วยการจับคู่กับอาหารพื้นเมือง ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้อุตสาหกรรมอาหารของประเทศเติบโต และเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังเป็นการส่งเสริมนโยบายรัฐบาลในการสร้างความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในการเพิ่มขีดความสามารถของพื้นที่และชุมชนในท้องถิ่นในการจัดการกับปัญหาสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการน้ำ การจัดการกำจัดกากอุตสาหกรรม ซึ่งจะส่งผลต่อสังคมและชุมชนโดยรวม ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมและนำ ESG เข้าสู่ระดับชุมชน เพื่อเดินหน้าประเทศสู่ Net Zero ซึ่งจะเป็นการวางรากฐานในการสร้างความได้เปรียบให้ผู้ประกอบการในการแข่งขัน รวมถึงสร้างความยั่งยืนให้ชุมชนและประเทศชาติ
นอกจากนี้ จากการที่กรมสรรพสามิตได้ดำเนินการปลดล็อคกฎหมายต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายของรัฐบาล รวมถึงมาตรการของรัฐบาลในการได้ปรับลดอัตราภาษีสุราแช่พื้นเมือง ประเภท อุ กระแช่ สาโท โดยปรับอัตราภาษีตามมูลค่าจากเดิม 10% เป็น 0% เพื่อลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการในการทำธุรกิจ และสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ ได้ส่งผลให้สุราชุมชนเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ประกอบการที่ปฏิบัติตามกฎหมายและขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องกับกรมสรรพสามิต ต่างก็มีการเติบโตและสร้างรายได้เพิ่มขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด
ปัจจุบันผู้ประกอบการสุราชุมชนมีทั้งหมด 2,064 รายแบ่งเป็น ผู้ประกอบการสุราแช่ ขนาดเล็กจำนวน 262 ราย ขนาดกลาง 5 ราย ผู้ประกอบการสุรากลั่นชุมชน ขนาดเล็ก 1,772 ราย และขนาดกลาง 25 ราย โดยมีปริมาณการชำระภาษีสุรากลั่นชุมชน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เปรียบเทียบกับปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ในช่วง 11 เดือนสูงขึ้น 468,968.01 ลิตร คิดเป็น 2.67% และรายได้ภาษีสุราชุมชนในช่วง 11 เดือนของปีงบประมาณพ.ศ. 2567 เปรียบเทียบกับปีงบประมาณพ.ศ. 2566 สูงขึ้น 33,321,963.33 บาท คิดเป็น 3.47% ภาษีสินค้าสุราแช่ชุมชนปีงบประมาณพ.ศ. 2567 ในช่วง 11 เดือน ในภาพรวมเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 มากกว่า 38,968,171.19 บาท คิดเป็น 16.58%