เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่ห้องประชุมพญาตานี ศาลากลางจังหวัดปัตตานี นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานประชุมร่วมกับสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูปัตตานี จำกัด นำโดย นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้ และสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูปัตตานีจำกัด หลังจากร่วมกันแต่งชุดดำส่วนใหญ่เป็นข้าราชการครูที่เกษียณอายุราชการเพื่อยื่นข้อเรียกร้องและติดตามความคืบหน้า กรณีเกิดการทุจริตและเงินหายจากบัญชีกว่า 70 ล้านบาท
นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ตามที่ สำนักงานตรวจสอบบัญชีสหกรณ์พบว่าในช่วงประมาณเดือนกันยายน พ.ศ.2565 สหกรณ์ออมทรัพย์ครูปัตตานี จำกัด มีเงินสูญหายในระบบประมาณ 70 ล้านบาท จากการตรวจสอบปรากฏพฤติกรรมการทุจวิตในลักษณะเอาไปทีละนิดๆ สะสมรวมกันจนเป็นที่มาของเงินที่หายไปในระบบมากกว่า 70 ล้านบาท และปัจจุบันสหกรณ์ออมทรัพย์ครูปัตตานี จำกัด ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ที่เกี่ยวข้องในการทุจริต ต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่เกิดความล่าช้า ยังไม่สามารถจับตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้ ส่งผลให้ หน่วยงานที่ มีหน้าที่ในการตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ฯ ไม่สามารถรับรองงบการเงินของสหกรณ์ฯ ประจำปี พ.ศ.2565 และไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้สมาชิกสหกรณ์ฯได้ ทำให้สมาชิกเกิดความเดือดร้อน
ทั้งนี้ กลุ่มตัวแทนสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูปัตตานี จำกัด จึงได้รวมกลุ่มเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่สมาชิกทั้งหมด โดยขอเสนอข้อเรียกร้องเพื่อให้มีการเร่งรัดดำเนินการ เช่น เร่งรัดการจ่ายเงินปันผลให้สมาชิกสหกรณ์ เรียกร้องให้คณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูปัตตานี จำกัด หยุดการปฏิบัติหน้าที่หรือลาออก ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีสั่งการให้หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดการดำเนินคดีนำตัวผู้กระทำความผิด ผู้ที่ทำให้สมาชิกกว่า 9,100 ราย ไม่ได้รับความเป็นธรรม และรับโทษตามกฎหมาย และช่วยเหลือสมาชิกอย่างเร่งด่วนด้วย
ด้านนายธัชพงศ์ บัวนุช สหกรณ์จังหวัดปัตตานี กล่าวว่า สำนักงานสหกรณ์จังหวัดปัตตานี ร่วมกับสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์จังหวัดปัตตานี ได้เข้าไปดูแล และแก้ไขปัญหาเบื้องต้น จากการตรวจสอบทราบว่า เริ่มมีการทุจริตมาตั้งแต่ ปี 2550 แต่เพิ่งมีการตรวจพบ ขณะนี้ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องแล้วบางส่วน อยู่ระหว่างออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา เมื่อเรียกครบ 2 ครั้งแล้วยังไม่มาราบงานตัวกับพนักงานสอบสวน ก็จะนำเสนอต่อศาลออกหมายจับต่อไป
สำหรับ ปัญหาการจ่ายเงินปันผลสมาชิกยังไม่ได้ เนื่องจากผู้ตรวจสอบบัญชียังไม่สามารถปิดบัญชีประจำปีได้ จะร่วมกันพิจารณาหาแนวทางแก้ไขต่อไป ส่วนกรณีที่สมาชิกต้องการให้คณะกรรมการฯลาออก หรือให้นายทะเบียนปลดออกนั้น ตามระเบียบแล้ว สมาชิกสามารถเข้าชื่อกันจำนวนหนึ่งเพื่อขอให้จัดประชุมวิสามัญเพื่อปลดคณะกรรมการฯได้อยู่แล้ว ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้รับปากว่าจะเร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยดูให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด และให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครู จำกัด กลับมาให้บริการเพื่อนสมาชิกได้อย่างปกติโดยเร็วด้วย
