
เมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นางรัชนี วรรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองไร้ที่พึ่งจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.กวิณวัชร์ อารยะสุริวงศ์ รอง ผกก.ตม.จว.ชลบุรี ร.ต.ท.ปราโมทย์ เฟื่องฟุ้ง รอง สว.ตม.จว.ชลบุรี นายวิจักขณ์ เพชรนุช นักพัฒนาชุมชนเมืองพัทยา สนธิกำลังตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เจ้าหน้าที่เทศกิจเมืองพัทยา กว่า 20 นาย ปล่อยแถวจัดระเบียบคนเร่ร่อนขอทาน


ทั้งนี้ โดยแบ่งกำลังเป็น 4 ทีม ออกลาดตระเวนตรวจสอบตามถนนเลียบชายหาดพัทยา ถนนพัทยาสายสอง ถนนวอล์กกิ้งสตรีท บริเวณตลาดวัดชัยมงคล พัทยาใต้ และแหล่งท่องเที่ยวคนพลุกพล่าน โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมต่างด้าวอุ้มลูกน้อยและคนไทยประกอบอาชีพนั่งขอทาน ได้ทั้งหมด 19 คน จึงควบคุมตัวมายังด่านตรวจเข้าเมืองพัทยา

จากการคัดแยกเป็นผู้ใหญ่ 10 ราย แยกชาวกัมพูชา 5 คน คนไทย 5 คน พร้อมเด็กชายหญิงอายตั้งแต่ 2-13 ปี อีก 9 ราย โดยยึดของกลางเป็นขันแก้วน้ำเศษเงินเหรียญ และธนบัตรได้เป็นจำนวนมาก เบื้องตรวจสอบชาวกัมพูชาเด็กและผู้ใหญ่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา และผลักดันออกนอกประเทศ ส่วนขอทานคนไทย จะส่งตัวไปทำประวัติและเปรียบเทียบปรับต่อไป

นางรัชนี วรรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองไร้ที่พึ่งจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า สืบเนื่องจากได้รับเรื่องร้องเรียนผ่านสายด่วนศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 กรณีนำเด็กมานั่งขอทานเป็นจำนวนมาก จึงบูรณาการส่วนเกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบจับกุม จากการตรวจสอบขอทานชาวกัมพูชาอุ้มลูกน้อยเรียกความน่าสงสารก็จะเป็น กลุ่มคนหน้าเดิม เคยถูกจับกุมมาแล้ว 2-3 ครั้ง โดยอ้างว่ารายได้ดีนั่งไม่กี่ชั่วโมง ได้เงินหลักร้อยจนไปถึงหลักพันบาทต่อวัน

ขณะที่ ชายพิการชาวกัมพูชารายหนึ่ง อ้างว่า โดนระเบิดได้รับบาดเจ็บจากสงคราม จึงเข้ามายึดอาชีพขอทานในพัทยา ส่งเงินกลับไปเลี้ยงลูกเรียนยังประเทศบ้านเกิด โดยเจ้าหน้าที่จึงขอประชาสัมพันธ์ อยากให้ช่วยกันหยุดการให้เงินขอทาน ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างด้าว ที่มาในลักษณะอุ้มลูกน้อยเรียกความน่าสงสาร พร้อมแนะว่าควรทำทานให้ถูกวิธีอย่าส่งเสริมกลุ่มคนยึดอาชีพขอทานเพราะเพียงคำว่าคนไทยใจดี เพราะทุกวันนี้คนหันมายึดอาชีพขอทานเป็นจำนวนมาก
ข่าว/ภาพ : ธีรวัฒน์ ทองมา ผู้สื่อข่าวจังหวัดชลบุรี
