
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการขุดพบวัตถุโบราณอายุหลายพันปีอยู่ใต้ดินในสวนปาล์มในพื้นที่หมู่ 2 ต.ศรีวิชัย อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานีและมีชาวบ้านล้างทำความสะอาดนำไปตั้งไว้บูชา เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่กรมศิลปกรมาตรวจสอบ โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวเดินทางไปสักการะบูชาอย่างต่อเนื่อง
นายสมหมาย จิตตรง อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่68/2 หมู่ 2 ต.ศรีวิชัย อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า เมื่อเย็นวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมาขณะขับรถจักรยานยนต์สามล้อพ่วงข้างไปดูรถแบคโฮขุดลอกคูน้ำในสวนปาล์มของลุงที่อยู่ข้างบ้าน ห่างจากบ้านพักประมาณ 200 เมตร ได้เห็นหินก้อนหนึ่งถูกรถตักขึ้นมากองไว้ แต่สังเกตมีรอยแกะสลักบางอย่างคล้ายสายประคตคาดเอวจึงลงไปดูพบว่า มีลักษณะเป็นเทวรูปองค์พระนารายณ์ลักษณะคว่ำ ด้วยความดีใจจึงอุ้มขึ้นมาและตะโกนบอกชาวบ้านที่อยู่ในสวนปาล์มว่า เป็นเทวรูปองค์พระนารายณ์ แต่ชาวบ้านว่าตนบ้าแล้ว ตนไม่ได้สนใจนำมาวางไว้ที่รถและนำน้ำมาล้างจนเห็นลักษณะที่ชัดเจนเป็นองค์เทวรูปตั้งแต่ส่วนสะดือลงมาด้านล่าง แต่ส่วนขาหายไป

นายสมหมาย กล่าวว่า ต่อมาคนขับรถแบคโฮได้มาบอกว่าน่าจะยังมีชิ้นส่วนอื่นฝังดินอยู่ จึงบอกให้ขุดขึ้นมาจนพบเป็นส่วนฐานขององค์เทวรูปมีเท้าทั้ง 2 ข้าง ลุงเจ้าของสวนบอกให้ตนนำไปเลยแล้วแต่จะนำไปทำอะไรก็ได้ ตนจึงนำมาล้างทำความสะอาด และได้ติดต่อเจ้าหน้าที่สำนักศิลปากรที่ 12 จังหวัดนครศรีธรรมราช กรมศิลปากรมาตรวจสอบ เบื้องต้นถ่ายภาพและบันทึกวัดขนาดต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่า เป็นเทวรูปแกะสลักหินทราย ยุคอาณาจักรศรีวิชัย มีอายุประมาณ 1,200 -1,500 ปี จึงขอให้ตนได้ดูแลและให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้สักการะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ก่อน และจะประสานมาขอรับไปตรวจสอบ
นายสุรพล สิงห์เจริญ กำนัน ต.ศรีวิชัย อ.พุนพิน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ขุดพบเทวรูปมาแล้ว 4 องค์ ที่พบครั้งนี้นับเป็นองค์ที่ 5 ซึ่งเป็นเวลากว่า 10 ปี เจ้าหน้าที่กรมศิลปและผู้นำชุมชนพยายามติดตามค้นหาแต่ไม่พบ คาดว่าองค์ที่พบล่าสุดน่าจะถูกเคลื่อนย้ายลงมาจากเทวสถานบนเขาศรีวิชัย ต.ศรีวิชัย อ.พุนพินมาเป็นเวลานับร้อยปี แต่อาจมีบางสิ่งทำให้จมดินโคลนอยู่ทำให้ไม่สามารถนำออกจากพื้นที่ได้จนถึงเวลาที่เหมาะสม หลังจากได้เทวรูปส่วนนี้ขึ้นมาแล้วได้จุดธูปอธิษฐานขอให้พบส่วนที่เหลือ

“ พอจะทราบว่า ส่วนบนของเทวรูปยังอยู่ในพื้นที่ กำลังเจรจาขอผู้ครอบครองให้กลับมาเป็นทรัพย์ของแผ่นดิน อย่างไรก็ตามตั้งแต่ 80 ปีมาแล้วในทุกวันที่ 14 เมษายนของทุกปี ชาวบ้านละแวกนี้บ้านหัวเตย มะลวน ลีเล็ด อ.พุนพิน และฝั่งบางโพธิ์ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จะนำลูกมะพร้าวอ่อนคนละลูกนำน้ำมะพร้าวอ่อนมารดเทวรูปกันตามความเชื่อโดยไม่ได้นัดหมาย การที่พบส่วนเทวรูปองค์ที่ 5 ขึ้นมาในช่วงใกล้สงกรานต์เหมือนกับสิ่งศักดิสิทธิ์ดลใจได้ชาวบ้านจะได้สักการะเพิ่มอีกองค์ในวันที่ 14 เมษายนนี้ ” นายสุรพล กล่าวว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในบริเวณพื้นที่บ้านหัวเขา หมู่ 1 ต.ศรีวิชัย อ.พุนพิน เป็นแหล่งโบราณคดีเขาศรีวิชัย ที่มีอายุในราวศตวรรษที่ 13-16 บนเนินเขาศรีวิชัย มีความยาวประมาณ 650 เมตรเป็นที่ตั้งโบราณสถานที่ยิ่งใหญ่ก่อสร้างตามทัศนคติความเชื่อของศาสนาที่เป็นต้นแบบของคนในสมัยโบราณเชื่อมโยงทั้งพระบรมธาตุไชยา , แหลมโพธิ์ ,พุมเรียงและพุนพิน ประกอบด้วย โบราณสถานเขาพระนารายณ์(เขาศรีวิชัย) ที่พบเทวรูปพระนารายณ์บริเวณลานกลางเนินเขา กรมศิลปากรได้มอบให้สำนักงานศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช ดำเนินการขุดสำรวจโบราณสถาน จำนวน 12-13 หมายเลข

ทั้งนี้ เมื่อเดือนเมษายน 2560 ได้ขุดพบธรรมจักรศิลา ทำด้วยศิลาทราย เจาะซี่ล้อเป็นแบบโปร่ง เส้นผ่านศูนย์กลาง 32.2 เซนติเมตร มีกำ 12 ซี่ มีดุมตรงกลางเป็นรูปวงกลม ส่วนฐานล่างชำรุดหัก ซึ่งเป็นธรรมจักรชิ้นที่ 2 ที่พบบนเขาศรีวิชัย และบริเวณเดียวกัน ขุดพบจักร ที่ทำจากโลหะสำริด เป็นวงกลม มี 4 ก้าน เส้นผ่านศูนย์กลาง 12 เซนติเมตร ผลการตรวจสอบเป็น จักรสำริด ชิ้นแรกที่พบในประเทศไทย มีอายุราว 1,300 ปี คาดว่าน่าจะเป็นของใช้ในพิธีกรรมมงคลศักดิ์สิทธิ์ อาจเป็นจักรของพระวิษณุ หรือของโพธิสัตว์ในลัทธิมหายาน ทำจากโลหะสำริด
นอกจากนี้ พบเครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์ถัง รวมถึงวัตถุที่มีแหล่งผลิตจากประเทศอินเดีย โดยมีข้อสันนิษฐานว่าเป็นรัฐโบราณ ตามบันทึกเอกสารของจีนที่ชื่อว่า “พันพัน” ที่มีอายุกว่า 1,300 ปี หรือ อ.พุนพิน ในปัจจุบัน และโบราณสถานหมายเลข 12 ได้ขุดพบแนวฐานอิฐดินเผาโบราณ กับแนวกำแพงแก้ว โบราณสถานหมายเลข 13 ขุดพบฐานโยนี ที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาพราหมณ์ ซึ่งอยู่ในแปลงที่ดินของชาวบ้าน
