กองทุนน้ำมันฯ เร่งรีดเงิน”เบนซิน-ดีเซล”หวังลดหนี้ก้อนโตแสนล้าน

ข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันในขณะนี้ยังมีความผันผวน ทำให้ต้องมีการบริหารการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้เหมาะสม ซึ่งจะเห็นได้ว่าราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลงมาระยะหนึ่ง โดยอาศัยจังหวะที่ราคาน้ำมันโลกลดลงเพิ่มการจัดเก็บเงินของดีเซล เพื่อสะสมเป็นรายได้และลดภาระหนี้ที่มีอยู่ 1.06 แสนล้านบาท

ปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯเก็บเงินดีเซลอยู่ 2.06 บาทต่อลิตร ในขณะที่ราคาขายปลีกอยู่ที่ 33 บาทต่อลิตร แม้ราคาน้ำมันโลกจะลดลง แต่ราคาขายปลีกยังไม่เปลี่ยนแปลง  ขณะเดียวกันการจัดเก็บเงินในกลุ่มน้ำมันเบนซิน 95 ลิตรละ 10.68 บาทแก๊สโซฮอล์ 95 และแก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 4.10 บาท  อี 20 ลิตรละ 2.11  บาทและอี 85 อยู่ที่ 1.46 บาท  ส่งผลกองทุนน้ำมันฯมีเงินไหลเข้าวันละเฉลี่ย 265 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามอัตราการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯทั้งเบนซินและดีเซล ยังสามารถใช้ในการบริหารราคาขายปลีกได้  ซึ่งหากช่วงไหนที่ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นก็สามารถลดอัตราการจัดเก็บลงเพื่อคงราคาขายปลีกไว้ไม่ให้กระทบกับผู้ใช้น้ำมัน  เพราะบางกรณีผู้ค้าน้ำมันก็ไม่ปรับลดราคาขายปลีกทันที ก็เป็นโอกาสที่กองทุนน้ำมันจะเพิ่มอัตราการจัดเก็บเงิน

สำหรับ การประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาชดเชยราคาน้ำมันที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพออกไปอีก 2 ปี จากเดิมที่จะหมดอายุลงในวันที่ 24 ก.ย.2567 นี้ โดยจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันที่ 17 ก.ย. นี้

ทั้งนี้ ตามพ.ร.บ. กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 กำหนดให้กองทุนน้ำมันฯ ต้องยกเลิกการชดเชยราคาน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ คือ เอทานอล และไบโอดีเซล (บี100) ทั้งกลุ่มน้ำมันแก๊สโซฮอล์ต่างๆ และน้ำมันดีเซล B7 และดีเซล B20 มาตั้งแต่ปี 2565 แต่กฎหมายผ่อนผันให้ยืดระยะเวลาได้ 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 2 ปี ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงพลังงานได้ขอขยายเวลาการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวไปแล้วหนึ่งครั้ง โดยจะสิ้นสุดในวันที่ 24 ก.ย. 2567 นี้ ดังนั้นจะเหลือโอกาสในการขอขยายเวลาได้อีก 1 ครั้ง ซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย โดยจะไปสิ้นสุดในวันที่ 24 ก.ย. 2569

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาจากโครงสร้างราคาน้ำมันปัจจุบัน กองทุนน้ำมันฯได้ลดการชดเชยน้ำมันชีวภาพมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ยังคงกฏหมายดังกล่าวไว้ เนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกยังมีความผันผวน  ยังจำเป็นต้องมีเครื่องมือไว้ใช้ในการบริหารให้ราคาขายปลีกอยู่ในระดับที่เหมาะสม และไม่ให้มีผลกระทบต่อภาคเกษตรที่ปลูกพืชพลังงาน มันสำปะหลังและอ้อย

Message us