เมื่อวันที่ 9 เมษายน ที่กองร้อยทหารพรานที่ ทพ.2108 บ้านปากห้วยม่วง ต.นาเข อ.บ้านแพง จ.นครพนม พ.อ.สุริวัชร์ อัครพรเดชพงษ์ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 21 ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี มอบหมายให้ ร.ท.วันชาติ เหมือนปืน ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 2108 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ตำรวจชุดสืบสวนปราบปรามยาเสพติด ฝ่ายปกครอง นรข.และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง แถลงตรวจยึดกัญชา จำนวน 5 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 100 กิโลกรัม ตรวจสอบภายในเป็นช่อดอกกัญชาแห้ง มีราคาซื้อขายประมาณกิโลกรัม 1,500 – 2,000 บาท รวมมูลค่าเป็นเงินประมาณ 200,000 บาท
ทั้งนี้ ตรวจยึดได้ ภายหลังขบวนการค้ากัญชาข้ามชาติ ใช้ช่องว่างกฎหมายกัญชาเสรี มีการเปลี่ยนรูปแบบนำเข้า จากเคยจับกุมกัญชารูปแบบอัดแท่ง 4 เหลี่ยม น้ำหนักแท่ง ละประมาณ 1 กิโลกรัม แต่ปัจจุบันมีการนำช่อดอกกัญชา บรรจุกระสอบ ลักลอบขนมาทางเรือหางยาวแบบกองทัพมด เพื่อนำมาพัก รอการขนส่งต่อไปขายสวมสิทธิ์เป็นกัญชาไทย ที่มีการขออนุญาต ปลูกขาย หลังมีการแก้กฎหมายเปิดกัญชาเสรี และนำกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดประเภท 5 โดยในครั้งนี้สามารถตรวจยึดได้ บริเวณบ้านเนินคะนึง ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม ส่วนผู้กระทำผิดไหวตัวหนีทัน อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ขยายผลติดตารมจับกุมเครือข่าย และนายทุนมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
เบื้องต้น จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่ากัญชาดังกล่าว ขบวนการค้ากัญชาข้ามชาติจะมีการ ลักลอบเข้ามาขายในพื้นที่ โดยจะใช้วิธีการสวมสิทธิ์แปลงสัญชาติเป็นกัญชาไทย เนื่องจากมีช่องว่างเกี่ยวกับกัญชาเสรี ทำให้สามารถขออนุญาตปลูกขายได้ รวมถึงไม่สามารถเอาผิดได้แค่การลักลอบนำเข้าที่ยากต่อการตรวจสอบ หากมีการลักลอบเข้ามาขายในพื้นที่ตอนใน เนื่องจากกฎหมายสามารถเอาผิดได้แค่ พ.ร.บ.ศุลกากร และ พ.ร.บ.กักพืช แต่หากมีการลักลอบพ้นจากชายแดนจะทำให้ยากในการตรวจสอบเอาผิด และมีการนำไปสวมสิทธิ์ขาย
อย่าไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ ทหารพราน กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี กำลังประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพิ่มมาตรการในการสกัดกั้นปรามปรามจับกุม ตามพื้นที่ชายแดน อีสาน รวมถึง นครพนม หลังมีการลักลอบนำเข้ามาสวมสิทธิ์มากขึ้น ในช่วงเดือนที่ผ่านมาสามารถตรวจยึดได้กว่า 500 กิโลกรัม ส่วนใหญ่จะขนมาเป็นช่อดอกกัญชาที่บรรจุกระสอบ หากสามารถนำเข้ามาขายในพื้นที่ตอนในของไทย มีราคาซื้อขายเพิ่มขึ้นเท่าตัว กิโลกรัมละ 3,000 – 5,000 บาท
ข่าว/ภาพ : พัฒนพงษ์ ศรีเพียชัย ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครพนม
