
เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ได้มีกลุ่มเกษตรกรซึ่งเป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรสาขาพิษณุโลก จาก อ.พรหมพิราม อ.นครไทยอ.บางระกำ จ.พิษณุโลกและอ.กงไกรลาศ จฬสุโขทัยกว่า 500 คน นำโดย นายอำนวย อินทุภูติ ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้ชุมนุมเรียกร้องความยุติธรรม นำผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนและความไม่เป็นธรรมจากการปฏิบัติหน้าที่และการกระทำของ หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรสาขาจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งมีพฤติกรรมร้ายแรงหลายกรณี มาถือป้ายประท้วงพร้อมตะโกนขับไล่ให้ออกไป โดยมี นายสุบิน แสงสุริยา นิติกรชำนาญการ กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิษณุโลก ได้ลงมารับมอบหนังสือจากแกนนำเกษตรกรแทนนายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก
นายอำนวย อินทุภูติ ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้ชุมนุมเรียกร้องความยุติธรรม กล่าวว่า การมาชุมนุมเรียกร้องครั้งนี้เนื่องจากหัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรสาขาจังหวัดพิษณุโลก มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ละเมิดข้อบังคับและระเบียบของกลุ่มองค์กรการเกษตรยุยง ปลุกระดม ทำให้สมาชิกองค์กรเกิดความแตกแยก วางตัวไม่เป็นกลางไม่รักษาผลประโยชน์ของเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟู พร้อมเอื้อประโยชน์ให้กับเจ้าหนี้ กรณีเกิดข้อพิพาทกับสมาชิกกองทุนฟื้นฟู ไม่แก้ปัญหา แต่เลือกปฏิบัติฟังเฉพาะพวกพ้องของตนเอง ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเลือกรับฟังความเห็นอนุกรรมการ 1 คนเท่านั้น ทั้งที่มีอนุกรรมการ 16 คน ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบในการเรียกอนุกรรมการจังหวัดจำนวน 1 ท่านมาทำ หนังสือข้อร้องเรียนกลุ่มเกษตรกรจึงก่อให้เกิดความแตกแยกในกลุ่ม ไม่ลงพื้นที่พบกลุ่มเกษตรกรและสถาบันเจ้าหนี้เพื่อแก้ปัญหาให้กับเกษตรกร ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการเจรจาหนี้ให้กับเกษตรกรในการรักษาที่ดินให้กับเกษตรกรทั้งที่เป็นภารกิจสำคัญของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ไม่ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ภารกิจและความคืบหน้าให้กับกลุ่มองค์กรทำให้สมาชิกขาดความเข้าใจและยุยงให้เจ้าหน้าที่มายึดทรัพย์ของเกษตรกร โดยบอกกล่าวให้เกษตรกรไปขายที่ดินเพื่อชดใช้หนี้เอง

นอกจากนี้ ยังขอให้ยกเลิกคำสั่งย้ายพนักงานอาวุโสของสำนักงาน คือ นายทัศน์พงษ์ แย้มปั้น เนื่องจากเป็นเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่พบปะประชาชนพร้อมทั้งรักษาผลประโยชน์ให้กับเกษตรกรอย่างแท้จริง เป็นผู้เข้าใจปัญหาเกษตรกรและแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรอย่างแท้จริง ไม่หวังผลประโยชน์อื่นใดจากเกษตรกร และมีการให้บริการสร้างความเข้าใจ ให้กับองค์กรเป็นอย่างดี เป็นที่รักของชาวบ้าน การออกคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่อื่นนั้นชาวบ้านสมาชิกกองทุนฟื้นฟูเห็นว่าคนดี คนทำงาน คนที่ชาวบ้านต้องการและปฏิบัติหน้าที่เต็มความสามารถ ต้องโดนย้ายนั้น ต่อให้พวกเราไม่ได้รับความยุติธรรมใดๆจากสำนักงานกองทุนฟื้นฟูหนี้สิน ไม่รับการแก้ไขปัญหาที่ดินคงถูกขายทอดตลาด ชาวบ้านคงหมดที่ทำกิน การรวมกลุ่มขอรับการสนับสนุนฟื้นฟูอาชีพคงไม่เกิดขึ้น ผลงานที่เขาย้ายมาจากที่อื่นเพียง 1 ปี ยังสามารถเป็นที่รักของชาวบ้านได้ ทำให้ผู้บริหารของสำนักงานกองทุนฟื้นฟู ถึงกับไม่เล็งเห็นความสามารถของบุคลากร ทำไมต้องมีการโยกย้ายขอให้ผู้บริหารระงับคำสั่งย้ายดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อสิทธิและประโยชน์ของชาวบ้านที่รอการแก้ไขปัญหาเรื่องหนี้สินและโครงการฟื้นฟูอาชีพขององค์กรจะได้ดำเนินต่อไปด้วย
ทั้งนี้ กลุ่มเกษตรกรฯ จึงอยากเรียกร้องขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ช่วยดำเนินการย้ายหัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูสาขาพิษณุโลกออกจากพื้นที่ไปภายใน 24 ชั่วโมง เนื่องจากเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูทั้งชาวพิษณุโลกและสุโขทัย ที่ได้รับความเดือดร้อนจะได้รับความเป็นธรรมต่อไป และยกเลิกคำสั่งย้ายพนักงานอาวุโสของสำนักงาน เนื่องจากเป็นผู้เข้าใจปัญหาเกษตรกรและแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรอย่างแท้จริง หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขกลุ่มเกษตรจะไม่ยุติการเรียกร้องและจะยกระดับความเรียกร้องมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิษณุโลกได้รับเรื่องมาดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมจะได้เสนอเรื่องต่อไปยังกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เพื่อดำเนินการต่อไป
ข่าว/ภาพ ; ชินวัฒน์ สิงหะ
