
เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ ประธานคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฏร พร้อมด้วยนายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการฯ และคณะกรรมาธิการฯ ได้ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ประชุมติดตามข้อมูลปัญหาการหลบหนีของนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด นักโทษที่หลบหนีออกจาก รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุม อาทิ ผู้บัญชาการเรือนจำทุกเรือนจำ , หน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม , ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช มาร่วมประชุม ในการซักถามข้อมูลต่างๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ ในการประชุมติดตามปัญหาการหลบหนีได้มีการซักถาม พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ถึงกระบวนการหลบหนี พล.ต.ต.สมชายชี้แจงว่า จากการสอบสวนจนกระทั่งออกหมายจับ 7 ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่เรือนจำ 4 คนพบว่ามีการเชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่เรือนจำอีก ซึ่งกำลังอยู่ในกระบวนการสอบสวนเพื่อออกหมายจับ ส่วนการหลบหนีของแป้ง นาโหนดคาดว่า ยังคงอยู่บนเทือกเขาบรรทัด ตามข้อมูลยังหลบหนีอยู่และคาดว่าน่าจะจับกุมตัวได้ในเร็วๆ นี้

นายกมลศักดิ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ติดตามการหลบหนีของแป้ง นาโหนดครั้งนี้เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นที่สนใจของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ประเด็นสำคัญที่กรรมาธิการฯลงมาวันนี้เพื่อหาข้อเท็จจริงว่า มันมีข้อบกพร่องจากส่วนใหนของกระบวนการควบคุมตัวนักโทษ ตั้งแต่เรือนจำพัทลุง และย้ายมาที่เรือนจำกลางนครฯ และไปรักษาตัวที่ รพ.มหาราชฯ ทั้ง 3 ส่วนนี้เราอยากฟังข้อเท็จจริงว่า มีกระบวนการที่มาที่ไปอย่างไรจนเป็นที่สุดท้ายที่ รพ.มหาราชฯ นักโทษถึงได้หลบหนี ซึ่งข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เราฟังจะไปสรุปอีกครั้งหนึ่งและทำเป็นข้อเสนอแนะกับฝ่ายบริหาร

ทั้งนี้ เท่าที่ฟังการชี้แจงของเจ้าหน้าที่สรุปได้ว่า ระเบียบในการปฎิบัติดีอยู่แล้ว ปัญหาอยู่ที่คนปฎิบัติที่บกพร่อง และเราอยากให้ทาง รพ.มหาราชฯได้มีข้อเสนอแนะในฐานะที่รับรักษานักโทษทั้งที่ผ่านมาและในอนาคต เพราะเค้าคือผู้ที่เห็นกับตาในการรักษานักโทษว่า อยากให้เป็นอย่างไร อยากให้เสนอแนะมายังกรรมาธิการฯ เราก็จะทำหนังสือเสนอไปยังฝ่ายบริหารต่อไป นอกจากนั้นมีการเสนอมาว่าถ้าแพทย์มีความเห็นว่านักโทษจะต้องไปรักษานอกเรือนจำทางเรือนจำต้องพาไปรักษาและกระบวนการพาไปตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงที่รักษาดูเหมือนว่า อยากให้มีการแยกต่างหากกับผู้ป่วยทั่วไป ตรงนี้ก็เป็นประเด็นหนึ่งที่กรรมาธิการฯ รับมาและต้องไปสรุปเพื่อเสนอผู้บริหารต่อไป

ประธานกรรมาธิการกฎหมาย กล่าวถึงกระบวนการหลบหนีซึ่งดูเหมือนไม่ค่อยปกติว่า ตรงนี้ยังเป็น 2 ส่วน ทางผู้บังคับการตำรวจจังหวัดนครศรีธรรมชาชได้ชี้แจงว่า ทางสำนวนคดีก็ยังมีการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่เรือนจำ โดยเบื้องต้นออกหมายจับบุคคลทั่วไป 7 คนและขยายผลยังไม่เสร็จว่าจะไปถึงใครบ้าง แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่เรือนจำที่ได้ดำเนินคดี 4 คน ข้อหามาตรา 157 ฐานละเว้น แต่ในส่วนของมาตรา 191 ประมวลกฎหมายอาญาผู้ใดที่ทำให้ผู้ถูกคุมขังหลบหนี อยู่ระหว่างการสรุปทำสำนวนคดีต่อ ถ้าดูจากลักษณะและพฤติการณ์ของแป้ง นาโหนด น่าเชื่อว่า มีการแบ่งหน้าที่กันทำงาน ตนสรุปจากพฤติการณ์ที่ฟังข้อเท็จจริงแต่จะไปถึงใครเป็นอย่างไรต้องรอตำรวจทำสรุปสำนวนอีกครั้งหนึ่ง
จากนั้น คณะกรรมาธิการฯได้เดินทางไปประชุมติดตามและดูสถานที่เกิดเหตุในรพ.มหาราชฯ
