
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ แถลงว่า ทางกมธ.จะบรรจุระเบียบวาระการพิจารณางบประมาณในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรมการข้าว และกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ตามที่ปรากฏตามข่าวที่เกี่ยวข้องกับนายศรีสุวรรณ จรรยา และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ซึ่งทางกมธ.มีหน้าที่วิเคราะห์พิจารณาศึกษางบประมาณอย่างตรงไปตรงมา
ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้รับคำถามจำนวนมากในส่วนของงบประมาณทั้ง 2 กรม ว่า มีการส่อเค้าความทุจริตหรือไม่ ตนจึงอยากใช้พื้นที่กมธ.ให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย เบื้องต้นได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการกมธ.ได้ตรวจสอบข้อร้องเรียนแล้ว และคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร รวมถึงได้ประสานไปยังอธิบดีทั้ง 2 กรม ปรากฏว่าอธิบดีกรมฝนหลวงฯ ยืนยันว่าวันที่ 15 ก.พ. ตารางงานว่าง ดังนั้น ทางกมธ.จะได้ออกหนังสือเชิญมาประชุมในวันดังกล่าว โดยในวันนี้ (1 ก.พ.) ในที่ประชุมก็จะขอมติในที่ประชุมเพื่อบรรจุระเบียบวาระที่จะมีการประชุมในวันที่ 15 ก.พ. จึงหวังว่าอธิบดีกรมฝนหลวงจะเข้ามาชี้แจงด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตามในส่วนของกรมการข้าว ซึ่งขณะนี้ประสานไปยังอธิบดีแล้วแต่ยังไม่ได้รับการยืนยันเพราะเจ้าหน้าที่ประสานงานแจ้งว่าอธิบดีขอดูหนังสือเรียกประชุมก่อน

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนต้องการให้ใช้เวทีกมธ.เป็นพื้นที่เปิดโอกาสให้อธิบดีได้มาแสดงความบริสุทธิ์ใจ และกมธ.จะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา โดยจะพิจารณาว่าการใช้งบประมาณในส่วนนี้มีปัญหาบกพร่องตรงไหนที่สังคมควรจะรับทราบบ้าง โดยทางกมธ. ต้องการให้พิจาณาในวัที่ 15 ก.พ. อธิบดีทั้ง 2 คน มาชี้แจงด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตามตนได้มอบหมายให้นายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ไปศึกษางบประมาณของกรมการข้าวมาโดยตลอด และนายกรุณพล ก็ได้เข้าร่วมประชุมกมธ.ที่เกี่ยวกับกรมการข้าวด้วยเช่นกัน
ด้าน นายกรุณพล กล่าวว่า ตนได้เคยสอบถามจากรองอธิบดีกรมการข้าวที่มาชี้แจงกับกมธ.เมื่อเดือนต.ค. 66 ถึงข้อสงสัยต่างๆที่มีประชาชนและข้าราชการในกรมการข้าวร้องเรียน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบประมาณที่วันนี้งบประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ในโครงการบีซีจีข้าวรักโลกของกรมการข้าว ก็ได้ถูกโอนย้ายไปเป็นเงินอุดหนุนเกษตรกรแล้ว แต่ยังมีข้อสงสัยในบางโครงการ แม้จะเป็นเงินเล็กน้อย เช่น งานวันข้าวแห่งชาติในปี 66 ใช้งบในการจัดงาน 5 ล้านบาท แต่สิ่งที่เราลงไปเจอคือมีการใช้ให้หน่วยงานราชการ เจ้าหน้าที่ของภาครัฐ เป็นผู้จัดจ้างงาน เป็นผู้ทำงาน และใช้อุปกรณ์ภาครัฐในการจัดงาน ทั้งๆที่ในทีโออาร์เขียนว่าให้ออร์แกไนซ์เป็นผู้จัดงาน ซึ่งเป็นคำถามที่เราถามไปยังกรมการข้าวแต่จนบัดนี้ ผ่านมาเกือบครึ่งปีแล้วยังไม่ได้คำตอบ

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดในวันที่ 4-6 มิถุนายน 2566 จะมีการจัดงานวันข้าวแห่งชาติ โดยกรมการข้าวใช้งบ 15 ล้านบาท เราจึงอยากขอคำชี้แจงจากอธิบดีกรมการข้าวว่า ทำไมถึงต้องเพิ่มงบขึ้นอีก 10 ล้านบาท ถือว่า เหมาะสมหรือไม่กับสภาพเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบันนี้ และผู้ใดเป็นผู้ได้รับสัมปทานในงานนี้ เป็นเจ้าเดิมหรือไม่ ยังจำเป็นต้องใช้พนักงานของภาครัฐเข้ามาจัดซื้อจัดจ้างและเข้ามาทำงานเองหรือไม่ เพราะข้อกล่าวอ้างว่าเอกชนไม่มีความรู้ความสามารถเพียงพอ
นอกจากนั้น ยังมีงบประมาณการจัดซื้อปุ๋ยจุลินทรีย์ รวมถึงโครงการข้าวรักโลก ทั้งที่ปัจจุบันเราทราบดีว่าปุ๋ยในประเทศขาดแคลน ทำให้ราคาปุ๋ยสูงขึ้นจาก 700 บาท เป็น 1,000 บาท ซึ่งทำให้เกษตรกรเดือดร้อนจากราคาปุ๋ย ทำให้เกิดโครงการปุ๋ยจุลินทรีย์ แต่ตัวชี้วัดการใช้ปุ๋ยจุลินทรีย์ทำให้ผลลัพธ์การผลิตข้าวเพิ่มมากขึ้นแค่ไหน ซึ่งเราเห็นงบประมาณบางส่งที่ส่งปุ๋ยจุลินทรีย์ไปตามศูนย์ข้าวต่างๆ ในบริมาณที่เท่ากัน ทั้งๆที่ปริมาณศูนย์ข้าวแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน ซึ่งตั้งแต่รองอธิบดีกรมการข้าวเข้ามาชี้แจงจนถึงบัดนี้ยังไม่ได้คำตอบ และได้เพียงแค่คู่มือการใช้ปุ๋ย รวมถึงการพัฒนาพันธุ์ข้าวตั้งแต่อธิบดีคนปัจจุบันขึ้นมารับตำแหน่งมีความล่าช้า และมีข้อสงสัยมากมาย เราจึงหวังว่าข้อสงสัยเหล่านี้อธิบดีจะเป็นผู้มาตอบคำถามด้วยตัวเอง

ขณะที่ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกมธ. กล่าวว่า ตั้งแต่กมธ.ได้รับหนังสือร้องเรียนจากนายศรีสุวรรณและนายยศวริศ นั้นมีการตั้งข้อสังเกตว่าอยากให้ประธานกมธ.หรือเป็นสส.ของพรรคก้าวไกล ลงไปรับหนังสือแต่เมื่อเรื่องถูกส่งเข้ามาในกมธ.แล้วก็เป็นหน้าที่ของกมธ.ที่จะต้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งในส่วนของกรมฝนหลวง มีข้อสังเกตที่แนบมาในหนังสือร้องเรียนคือมีการล็อกสเปกการจัดซื้อเครื่องบินจำนวน 2 ลำ มูลค่า 1,188 ล้านบาท โดยให้ประเทศ ประเทศเดียวในการส่งทีโออาร์เข้าร่วมประมูล และมีการไปดูงานที่บริษัทที่ส่งทีโออาร์เข้ามาร่วมประมูล
เมื่อถามว่า ตอนมายื่นหนังสือนายศรีสุรรณได้บอกเหตุผลหรือไม่ว่าทำไมต้องเป็นสส.พรรคก้าวไกลมารับหนังสือ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่ได้บอก แต่ยืนยันว่าต้องเป็นก้าวไกล เมื่อถามย้ำว่ามองหรือไม่ว่าพรรคก้าวไกลอาจถูกเป็นเครื่องมือได้ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในส่วนนั้นได้ผ่านมาแล้ว และได้ปรากฎว่ามีหลักฐานที่เชื่อได้ว่าทั้ง 2 คน ใช้กมธ.เพื่อเป็นเครื่องมือในการเรียกตบทรัพย์จริง ส่วนเนื้อหาในข้อร้องเรียนที่ให้เลขาฯตรวจสอบพบว่า ข้อมูลทุกอย่างในข้อร้องเรียนไม่ว่าจะเป็นชื่อโครงการ จำนวนงบประมาณต่างๆ ไม่ได้เป็นข้อความเท็จ ดังนั้น เราต้องดำเนินตามกระบวนการต่อไป ส่วนข้อกล่าวหาอื่นๆ เช่น มีการล็อกสเปก การไปศึกษาดูงานกับต่างประเทศกับผู้รับเหมา ก็ต้องตรวจสอบต่อไป