กกต.รับรองไปก่อนส.ส.ครบ 500 เขตเผย 82 คนมีร้องเรียนค่อยสอยทีหลัง

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2566  ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต. แถลงการรับรองผลการเลือกตั้งส.ส.ทั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และแบบบัญชีรายชื่อว่า ทางกกต.ตรวจสอบรายงานจากความเห็นของผู้ตรวจการเลือกตั้งทั้ง 77 จังหวัด รายงานการตรวจสอบสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ได้รับเลือกตั้ง และตรวจสอบเรื่องร้องคัดค้านของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดและกรุงเทพมหานคร และ 3 แหล่งข้อมูลจากการตรวจสอบเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้งส.ส.ของกลุ่มภารกิจงานสืบสวนสอบสวน และวินิจฉัย เมื่อกกต.ได้พิจารณาแล้วจึงมีมติให้ประกาศผลการเลือกตั้ง แบบแบ่งเขตเลือกตั้งจำนวน 400 เขต และแบบบัญชีรายชื่อครบทั้ง 100 คน

“กกต.ยังมีอำนาจพิจารณาการสืบสวนไต่สวน ตามมาตรา 138 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. 2561 หมายความว่าหลังการเลือกตั้งหากมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่าได้รับเลือกตั้งมาโดยไม่สุจริต กกต.จะยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับแต่วันเลือกตั้ง ทั้งนี้ที่กกต.ประกาศรับรองผลไปก่อนเนื่องจากกระบวนการสืบสวนสอบสวนผู้ถูกร้องเรียนอาจดำเนินการไม่แล้วเสร็จภายใน 60 วัน และเห็นว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เนื่องจากขณะนี้มีการอ้างพยานหลักฐานเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยในจำนวน ส.ส. 400 เขต พบว่า มี ส.ส. ไม่มีเรื่องร้องเรียนจำนวน 318 คน และมีเรื่องร้องเรียน 82 คน” เลขาธิการกกต. ระบุ

นายแสวง ยังกล่าวอีกว่า ส่วนจำนวนคะแนนเสียงที่เป็นคะแนนดีนำมาคำนวณส.สแบบบัญชีรายชื่อมีทั้งสิ้น 31,522,698 คะแนน โดยสัดส่วนคะแนนต่อส.ส. 1 คน คือ 375,226 คะแนน เมื่อคำนวณแล้วมีจำนวน 17 พรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งประกอบด้วย พรรคก้าวไกล 39 คน พรรคเพื่อไทย 29 คน พรรครวมไทยสร้างชาติ 13 คน พรรคประชาธิปัตย์ 3 คน พรรคภูมิใจไทย 3 คน พรรคประชาชาติ 2 คน

ส่วนพรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคท้องที่ไทย พรรคไทยสร้างไทย พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคเป็นธรรม พรรคพลังประชารัฐ พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคเสรีรวมไทย และใหม่ พรรคละ 1 คน

ทั้งนี้ ส.ส.ที่ กกต. ประกาศรับรองสามารถมารับหนังสือรับรองได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (20 มิ.ย.) – 24 มิ.ย. เวลา 08.30-16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ

เมื่อถามว่า หลังประกาศรับรองแล้ว กกต.จะดำเนินการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัตินายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกของพรรคก้าวไกล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 เลยหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในการพิจารณาของสำนักงาน ต้องดูข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย และดูว่า มีการดำเนินการไปแล้วมากน้อยแค่ไหน ขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จ

เมื่อถามว่า จะต้องยื่นเรื่องก่อนจะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นาย แสวง กล่าวว่า เราไม่ได้สนใจเรื่องการเมืองการสอบสวนของ กกต. จะต้องสอบสวนให้สิ้นกระแสความ ถ้าเร็วก็เร็วโดยลักษณะงานที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง

Message us