
เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 5 ตัวประกันคนไทย ที่ได้รับการปล่อยตัวจากกลุ่มฮามาส เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ได้รับการดูแลรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในกรุงเทลอาวีฟ โดยรัฐบาลอิสราเอล มีทีมแพทย์และพยาบาลดูแลเป็นอย่างดี โดยมีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.กระทรวงการต่างประเทศ ได้มาเยี่ยมและให้กำลังใจคนไทยทั้ง 5 คน
นายพงษ์ศักดิ์ แทนนา เปิดเผยว่า รู้สึกดีมากที่ได้มานั่งตรงนี้ สุขภาพรวมๆตอนนี้ถือว่าดี ตนเองบ้านอยู่บุรีรัมย์ ได้คุยกับที่บ้านเขาดีใจที่ได้ออกมาอย่างปลอดภัย ออกมาแล้วทานอาหารปกติ ได้กินอาหารไทยมื้อแรก อร่อยมาก เมื่อคืนได้กิน ไก่ ส้มตำ ซูชิ ก็ดีใจ ที่ผ่านมากินอาหารบ้านเขา เช่น แป้ง ซีส ถั่ว ถามว่าอิ่มไหม พออยู่ได้ ลำบากมากกับเรื่องความเป็นอยู่ แต่มาถึงวันนี้เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ เหมือนได้ชีวิตใหม่ รู้สึกดีใจมาก ขอแค่ได้มีชีวิตออกมาตนก็โอเคแล้ว
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า มีความหวังว่าสักวันหนึ่งจะมีคนมาช่วยได้ออกมาปลอดภัย ตลอดเวลาตนเองคิดถึงหน้าลูก คิดถึงลูก คิดถึงครอบครัวมาก สิ่งที่เป็นกำลังใจคืออยากเจอลูกสาว อายุ 15 ปี อยากกลับบ้านไปเจอตัวจริง เพราะไม่ได้เจอลูกมากว่า 7 ปีแล้ว ตั้งแต่ลูกสาวอายุ 7 ขวบ

นายบรรณวัชร แซ่ท้าว กล่าวว่า รู้สึกดีใจมาก ในขณะตกเป็นตัวประกัน ก็ไม่ได้อยู่ดี แต่สุขภาพไม่ได้แย่มาก พอกินได้ และอยากกลับบ้าน เราจากบ้านมานาน คิดถึงครอบครัว ได้ออกมาแล้วในใจโล่งขึ้นเยอะ สบายใจมาก อยู่ที่นู่นไม่รู้จะได้กลับมาบ้านจริงไหม คิดอยู่ตลอดว่า เวลาเขาออกมา เขาจะทำอะไรเราไหม แต่เขาปลอบใจเรา ว่าไม่ทำอะไรเรา เป็นห่วงเราบ้าง ถามว่าจะกินอาหารเขาได้ไหม เราก็ต้องกินเพื่อให้อยู่ได้
นายบรรณวัชร กล่าวว่า อยู่กับเพื่อนคนงานด้วยกัน 3 คน พอจะได้พูดคุยเป็นกำลังใจกันได้ และช่วยกันเป็นกำลังใจว่า สักวันหนึ่งเราจะได้กลับบ้านอย่างแน่นอน
นายพงษ์ศักดิ์ เล่าเสริมว่า ตนอยู่คนละแคมป์กับนายบรรณวัชร แต่ขึ้นรถคันเดียวกัน เขาจะแยกไปอยู่คนละที่ ตลอดเวลา 1 ปี ไม่เคยเจอกัน ไม่ได้เห็นแสงเดือนแสงดาว เราไม่รู้สถานการณ์ข้างนอกเลย มีแค่แสงลอดผ่านกระจกเข้ามา อยู่ในสภาพห้องสี่เหลี่ยม ทางกลุ่มฮามาสจะเอาอาหารมาให้ ส่วนการอาบน้ำ 4-5 วันให้อาบครั้งหนึ่ง ก็พอจะอยู่ได้

นายวัชระ ศรีอ้วน กล่าวว่า ดีใจที่ได้ออกมา ตลอดเวลามีความหวังว่าต้องได้ออกมาก คิดว่าทุกคนต้องมาช่วยเหลือเรา ตนเองมีลูกสาวเป็นกำลังใจ อยากออกมาหาพ่อแม่ กลับบ้านไปอยากเจอลูกสาวและครอบครัวอยากมีเวลาพักผ่อนกับครอบครัว ตลอดเวลาที่ถูกควบคุมตัวก็พยายามดูแลตัวเอง ทานอาหารที่ถูกจัดมาให้ทำให้ไม่ซูบผอม และดีใจที่ได้ทานอาหารไทยและหวังจะได้กลับไปทานอาหารที่บ้านกับครอบครัว
ขณะที่ นายสุรศักดิ์ ลำเนา กล่าวว่า ดีใจที่ได้โทรศัพท์คุยกับพ่อแม่แล้ว ตนรอวันนี้มานาน พยายามนอนไม่คิดอะไรมาก ตนเองไม่มีภรรยา ไม่มีลูก อาจเป็นข้อดีข้อหนึ่ง ตนไม่ท้อ มั่นใจว่าต้องมีความพยายามช่วยให้ได้ ถ้าเราไม่ขัดขืน ทำตามคำสั่ง ก็ไม่เป็นอะไร ปกติคุยกันพอรู้เรื่อง ไม่ได้ท้อ ส่วนตัวคิดว่ากำลังใจเป็นเรื่องสำคัญคิดเรื่องดีๆ อะไรที่พอมีกำลังใจก็คิดไป
ด้านนายเสถียร สุวรรณคำ กล่าวว่า ดีใจที่จะได้กลับประเทศไทย ตลอดกว่า 1 ปี เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก และมีเวลาที่ท้อบ้าง แต่พวกเราก็คุยกัน คิดว่าคงได้ออกมาสักวันหนึ่ง ถ้าถามว่า อยากกินอะไรมากที่สุดตอนนี้ น่าจะเป็นพวลาบ ต้มแซ่บ ซอยจุ๊ อะไรแบบนี้