2 สมเด็จร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์อุโบสถวัดบางหลวงหัวป่าสาขาวัดระฆังฯ

เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่วัดบางหลวงหัวป่า (วัดร้าง) สาขาวัดระฆังโฆสิตาราม หมู่ 4 ตำบลสวนพริกไทย อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี สมเด็จพระธีรญาณมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม และสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีบำเพ็ญกุศลและพิธีวางศิลาฤกษ์อุโบสถวัดบางหลวงหัวป่า (วัดร้าง) สาขาวัดระฆังโฆสิตาราม โดยมี พระธรรมรัตนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต พระอารามหลวง พระเทพประสิทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม พระครูสุภัทรธรรมโฆษิต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม รักษาการเจ้าอาวาสวัดบางหลวงหัวป่า พร้อมพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ร่วมประกอบพิธี และมีนายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายสุเมธ มีนาภา รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายศุภชัย นพขำ ส.ส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย นายสายัณ นพขำ ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีตำบลบ้านกลาง ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ และพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก ร่วมพิธี

โอกาสนี้ พระครูสุภัทรธรรมโฆษิต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม รักษาการเจ้าอาวาสวัดบางหลวงหัวป่า ได้จุดธูปเทียนบูชาฤกษ์ที่โต๊ะเครื่องบรวงสรวง โดยมี พราหมณ์ประกอบพิธีบวงสรวงบูชาฤกษ์ จากนั้น นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ประธานฝ่ายฆราวาส จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย และถวายสักการะสมเด็จพระธีรญาณมุนี และสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ประธานฝ่ายสงฆ์ เสร็จแล้วสมเด็จพระธีรญาณมุนี พร้อมด้วยสมเด็จพระมหวีรวงศ์ นำนายสุทธิพงษ์พร้อมด้วย ดร.วันดี และคณะร่วมโปรยทรายเสก ใบเงิน ใบทอง ใบนาก เหรียญเงิน ทอง ลงก้นหลุมของแท่นวางแผ่นศิลาฤกษ์ พร้อมปิดทองและเจิมแผ่นศิลาฤกษ์ ไม้เข็มมงคล แผ่นอิฐทอง-นาก-เงิน และประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ลั่นฆ้องชัย ประธานสงฆ์ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ผู้ร่วมพิธีถวายสังฆทาน กรวดน้ำรับพร และกราบลาพระรัตนตรัย เป็นอันเสร็จพิธี

นายสุทธิพงษ์ เปิดเผยว่า ในวันนี้ถือเป็นมงคลฤกษ์ที่งดงามที่ได้มาร่วมประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อุโบสถวัดบางหลวงหัวป่า (วัดร้าง) สาขาวัดระฆังโฆสิตาราม พร้อมพุทธศาสนิกชนทุกท่าน โดยพิธีในวันนี้ถือเป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์และมีความสำคัญ เป็นการต่อยอด ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญงอกงาม มั่นคง และยั่งยืนสืบไป ซึ่งการประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ในวันนี้ ผู้เข้าร่วมพิธีทุกท่านที่ได้มารวมตัวกันในวันนี้ ก็ด้วยเห็นถึงความสำคัญของพระพุทธศาสนา หลักคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่มีนัยสำคัญและมีความหมายอย่างมากต่อการดำรงชีวิตของพวกเราทุกคนในฐานะพุทธศาสนิกชนที่ดี ด้วยการพร้อมใจที่จะทำนุบำรุง รักษา และสืบสานความงดงามของพระพุทธศาสนาให้คงไว้แก่ลูกหลานของเราต่อไป

พระครูสุภัทรธรรมโฆษิต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม รักษาการเจ้าอาวาสวัดบางหลวงหัวป่า กล่าวว่า วัดบางหลวงหัวป่า (ร้าง) แห่งนี้เป็นวัดร้างตั้งแต่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ปัจจุบันไม่มีเสนาสนะอะไร อาตมภาพจึงได้ร่วมกับ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่เมื่อครั้งท่านดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วย ดร.วันดี เป็นผู้ขอบูรณปฏิสังขรณ์และขอยกวัดร้างแห่งนี้ให้เป็นวัดที่มีพระภิกษุสงฆ์อยู่จำพรรษาต่อไป เป็นวัดสาขาของวัดระฆังโฆสิตาราม โดยในช่วงที่ผ่านมา วัดได้ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ ประกอบด้วย ต้นไม้ประจำจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ เป็นไปตามความตั้งใจของท่านปลัดกระทรวงมหาดไทย และท่านนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ที่ประสงค์จะให้สถานที่แห่งนี้ เป็นรมณียสถาน สถานที่แห่งความร่มเย็น และเป็นศูนย์การเรียนรู้ตามโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเป็นสถานที่แห่งการร่วมทำในสิ่งที่คนในโลกใบนี้ต้องช่วยกัน นั่นคือ การลดภาวะโลกร้อนตามแนวทางความยั่งยืนของสหประชาชาติ โดยเมื่อวัดแห่งนี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์จนเสร็จสมบูรณ์ ยังเป็นพุทธสถานสาธารณสงเคราะห์นักเรียน นิสิต นักศึกษา ผู้ป่วยยากไร้ และชาวบ้านในพื้นที่ ให้ได้รับประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ตามนโยบายด้านการสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคมอีกด้วย

พระครูสุภัทรธรรมโฆษิต กล่าวว่า ภายหลังจากพิธีวางศิลาฤกษ์อุโบสถในวันนี้ ได้มีพุทธศาสนิกชนผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนาหลายท่าน ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพในการก่อสร้างอาคารสถานที่ต่าง ๆ หลายรายการ ทั้งงานอาคารและงานภูมิทัศน์ ที่อยู่ภายใต้ โครงการก่อสร้างอนุสรณ์สถาน 150 ปี สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ในพื้นที่ทั้งหมด 23 ไร่ 64 วา เช่น อนุสรณ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) องค์ใหญ่ ขนาดหน้าตัก 17 เมตร และสูง 22 เมตร อุโบสถ อาคารกุฏิเจ้าอาวาส อาคาร 72 ปี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ อาคารที่พักสงฆ์ เป็นต้น อย่างไรก็ดี หากพุทธศาสนิกชนท่านใดประสงค์จะร่วมบริจาคเพื่อการสร้างวัด ก็ยังสามารถร่วมถวายปัจจัยบริจาคในรายการก่อสร้างกำแพงแก้วรอบวัด จำนวน 258 ช่องได้เช่นกัน สามารถติดต่อเป็นเจ้าภาพได้ที่ พระครูสุภัทรธรรมโฆษิต หมายเลขโทรศัพท์ 095-990-9910

Message us