“ไทยสร้างไทย”ตีปี๊บนโยบายแก้หนี้เพิ่มเงินสร้างโอกาสให้คนไทยเข้าถึงแหล่งทุน

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ที่โรงแรมแกนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ ในงานเสวนา “อนาคตประเทศไทย Economic Drives #เศรษฐกิจไทย…สตาร์ทอย่างไรให้ก้าวนำโลก” นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการด้านยุทธศาสตร์ พรรคไทยสร้างไทย ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในหัวข้อ “Policy Push – Market Drives กำหนดนโยบายให้ตรงใจตลาดโลก”

นายสุพันธุ์ นำเสนอนโยบายหลักด้านเศรษฐกิจของพรรคไทยสร้างไทย คือ แก้ เพิ่ม สร้าง โดยจะเริ่มจากการแก้หนี้-เติมทุน เพราะปัจจุบันประเทศไทยมีหนี้ครัวเรือนกว่า 90% ตอนนี้มีหนี้สาธารณะที่สูงเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งปัญหาหนี้นอกระบบ และ หนี้เสียด้วย โดยพรรคไทยสร้างไทยจะตั้งกองทุนฟื้นฟูหนี้เสีย เพื่อแก้ปัญหาหนี้เสียที่เกิดขึ้นในช่วงโควิด โดยการพักหนี้ 3 ปี และชำระดอกเบี้ยของหนี้เสียที่เกิดขึ้นในช่วงโควิดให้ 2 ปี และกองทุนเครดิตประชาชนที่จะปล่อยกู้ให้ประชาชนเริ่มต้นคนละ 5,000-50,000 บาท ไม่ต้องมีการค้ำประกัน ดอกเบี้ยต่ำ และผ่อนชำระได้เป็นรายวันเพื่อที่จะต่อสู้กับปัญหาหนี้นอกระบบ และ จะต้องมีการแขวนกฎหมายที่ไม่จำเป็นและเป็นอุปสรรคในการทำมาหากิน เช่น ใบอนุญาตต่างๆ เอาไว้ก่อนเพื่อให้คนกลับมาทำมาหากินได้เป็นการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ

ประเด็นต่อมาคือ การเพิ่มเงินในกระเป๋า โดยจะเพิ่มรายได้ใน 4 ด้านสำคัญคือ สินค้าเกษตรที่ทางพรรคไทยสร้างไทยจะเข้าไปดูแลปรับเปลี่ยนระบบชลประทานทั้งระบบ สนับสนุนการใช้เทคโนโลยีในการเกษตร มีการประกันราคาผลผลิตและราคต้นทุน รวมถึงการสนับสนุนการแปรรูปและสร้างตลาดเกษตรมากขึ้นในทุกจังหวัด ด้านต่อมาคือการท่องเที่ยว ที่จะสนับสนุนให้มีการจัดงานมหกรรมระดับโลกเช่นมหกรรมดนตรี EDM หรือ มหกรรมกีฬามาราธอนต่างๆ ด้านที่สามคือ การเพิ่มแต้มต่อให้อุตสาหกรรมไทยใน BOI การสร้างคลัสเตอร์ด้านอุตสาหกรรมของคนไทย เช่น อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมเครื่องสำอางค์ โดยรัฐลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆให้ เพื่อนำไปสู่ จุดที่ 4 คือการสร้าง GDP ของ SMEs เพราะปัจจุบัน GDP ของ SMEs ไทยมีอยู่ประมาณ 30% โดยตั้งเป้าจะให้สูงขึ้น

ในประเด็นสุดท้ายคือเรื่องของการสร้างโอกาสและความสุข โดยชู 3 นโยบายหลัก คือ เรียนฟรีจนจบปริญญาตรี และ ลดเวลาเรียนลง 3 ปี โดยแบ่งเป็นประถม 1 ปี มัธยม 1 ปี และ มหาวิทยาลัย 1 ปี เพื่อที่จะให้คนเข้าสู่ตลาดแรงานได้เร็วขึ้น โดยประเมินว่าจะจบริญญาตรีภายในอายุ 18 ปี เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว และนโยบายต่อไปคือการยกเว้นภาษีเด็กจบใหม่เป็นระยะเวลา 3 ปี เพื่อให้เด็กจบใหม่มีระยะเวลาในการตั้งตัว และ นโยบายสุดท้ายคือบำนาญประชาชน 3,000 บาท ที่เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของพรรคไทยสร้างไทยที่นายสุพันธุ์เห็นว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการกรตุ้นเศรษฐกิจให้กับประเทศ

ทั้นี้ ในช่วงของการตอบคำถามมีคำถามจากประชาชนว่า “ทำยังไงให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น?” นายสุพันธุ์ กล่าวว่า ทุกวันนี้เรามีธนาคารอยู่เยอะ แต่การเข้าถึงแหล่งเงินทุนลำบาก วันนี้เรามีแอปเป๋าตังค์ แต่ไม่มีตังค์ วันนี้เราจะมีกองทุนเครดิตประชาชนให้ประชาชนได้กู้ยืมตั้งแต่ 5,000-50,000 บาท ดอกเบี้ยต่ำไม่ต้องค้ำประกันและเงินเข้าผ่านแอปเป๋าตังค์ ให้เขาเอาไปใช้ลงทุนและเงินหมุนเวียนในระบบ พอเข้าโตขึ้นก็มีความสามารถไปหาแหล่งเงินทุนที่ใหญ่ขึ้น ขณะเดียวกันเรื่องหนี้เสียช่วงโควิด ทำให้ SMEs ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อเอามาทำธุรกิจต่อได้ เราต้องแก้ให้โดยการพักหนี้ 3 ปีและจ่ายดอกเบี้ยให้ 2 ปี เพื่อให้ SMEs มีเครดิตกลับไปกู้เงินได้ และมีกองทุน SMEs ส่งเสริมและช่วยเหลือ SMEs ให้หมุนเวียนเงินในระบบ พรรคไทยสร้างไทยเตรียมนโยบายตรงนี้ไว้ให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายและส่งเสริมการทำมาหากิน

นายุสพันธุ์ กล่าวถึงราคาค่าแรงขั้นต่ำที่เหมาะสมควรอยู่เท่าไรว่า ค่าแรงขั้นต่ำต้องสัมพันธ์กับ GDP per capita ซึ่งพรรคไทยสร้างไทยมีแนวทางในการทำให้รายได้ต่อหัวของประชาชนกรเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สุดท้ายคนไทยเหลือเงินในกระเป๋าเท่าไร ไม่ใช่มีค่าแรงเท่าไร เพราะถ้าค่าแรง 1,000 บาท แต่มีค่าใช้จ่ายสูงก็ไม่มีเงินเหลือในกระเป๋า ถ้าเราขึ้นแค่ค่าแรง ค่าการผลิตก็สูง สุดท้ายค่าครองชีพที่แรงงานต้องใช้จ่ายก็สูงตาม และตกงานเพราะบริษัทไปต่อไม่ได้ และแรงงานก็ไม่เหลือเงินในกระเป๋า แต่เราจะลดรายจ่าย สร้างรายได้ และเพิ่มทักษะให้แรงงานเพื่อให้มีการขึ้นค่าแรงได้อย่างยั่งยืน สอดคล้องกับค่าครองชีพและเงินในกระเป๋า

นายสุพันธุ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า พรรคไทยสร้างไทยเรามุ่งมั่นให้คนไทยกินดีอยู่ดี เราต่อต้านคอร์รัปชัน และปฏิญาณตนแล้วว่าจะไม่โกงเวลาเข้าสภาอย่างแน่นอน

Message us