“ไตรรงค์”ยัน “บิ๊กตู่”คึกคักไม่ต้องปรับภาพลักษณ์เป็นไปตามธรรมชาติ

เมื่อวันที่อ29 ธ.ค. นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเข้าหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีอที่ห้องทำงานทำเนียบรัฐบาล โดยนายไตรรงค์ กล่าวว่า เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะของที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ได้พูดคุยหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เพราะระยะเดือนสองเดือนที่ผ่านมา มีข้อร้องเรียนของประชาชนในปัญหาต่างๆ มาที่ตนเอง เช่น ปัญหาการนำเข้าการส่งออกที่เป็นอุปสรรค ไม่สะดวกไม่คล่องตัว ทำให้การทำงานลำบาก หรือปัญหาหนี้เกษตรกร ปัญหาของชาวไร่ชาวนาที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยดูแลพวกเขา

เมื่อถามว่านายกฯ มีสิ่งที่ต้องการให้ช่วยเป็นพิเศษหรือไม่ นายไตรรงค์ กล่าวว่า ไม่มี เพราะปกติคุยกันบ่อย คุยกันเยอะ เกือบทุกเรื่อง ไม่จำเป็นต้องฝากอะไร เพราะแค่มองตาก็รู้ใจกันว่าจะต้องแก้ปัญหากันอย่างไร

“ตอนนี้ที่บ้านผม มีหนังสือร้องเรียนเข้ามาจำนวนมาก และเป็นหนังสือที่ร้องเรียนมาที่ทำเนียบก่อนที่จะถูกส่งไปให้ผมอ่าน แต่ละวันก็อ่านหนังสือร้องเรียนอยู่ที่บ้าน ซึ่งผมเห็นว่ามีปัญหาทุกเรื่อง อย่างเช่น เรื่องตำรวจคอร์รัปชั่น เรื่องตำรวจรีดไถ แต่ผมจะไปล้วงลูกลึกลงไปก็ไม่ได้ เพราะผมต้องดูแลในภาพใหญ่ๆ แต่ผมก็จะไม่ทิ้งโดยจะส่งเรื่องไปยังตำรวจต้นสังกัด เพื่อกำชับให้ผู้บังคับบัญชาดูแลปัญหาที่ทำให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชน” นายไตรรงค์ กล่าว

เมื่อถามอีกว่าได้ให้กำลังใจนายกฯ อะไรหรือไม่ นายไตรรงค์ กล่าวว่า มีเพียงการอวยพรปีใหม่กันนิดหน่อย ไม่ต้องให้กำลังใจเพราะตอนนี้ก็เห็นว่านายกฯ ยังคึกคักอยู่ ส่วนคำถามที่ว่านายกฯ จำเป็นจะต้องปรับภาพลักษณ์ให้เป็นนักการเมืองมากขึ้นหรือไม่ นายไตรรงค์ กล่าวว่า เรื่องแบบนี้จะเป็นไปตามธรรมชาติ

ด้านนายพีระพันธุ์ ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีนายกรัฐมนตรีจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติเมื่อไหร่ว่า วันนี้ตนมาในเรื่องภารกิจงานราชการ ซึ่งนายกฯ ให้แนวทางการทำงานเรื่องปัญหาปากท้องประชาชน รวมถึงความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก และนายกฯ ได้มอบให้ นายไตรรงค์ ในฐานะที่ปรึกษารับเรื่องไปดำเนินการ ซึ่งการทำงานระหว่างงานราชการกับงานการเมือง จะถูกแยกออกกันอย่างสิ้นเชิง เพราะทุกคนรู้หน้าที่ว่าอะไรเป็นเรื่องส่วนตัว อะไรเป็นเรื่องส่วนรวม อันไหนเป็นงานราชการ และอันไหนเป็นเร่องส่วนตัว ตนสามารถแยกออกจากกันได้

หลังจากนั้นนายพีระพันธุ์ ได้เดินนำนายไตรรงค์ไปยังห้องทำงานที่มีการจัดเตรียมไว้บริเวณอาคารกองบัญชาการ 2 ในตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายไตรรงค์ได้พูดคุยกับผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ ตั้งแต่สมัยเคยเข้ามาทำงานในทำเนียบรัฐบาลในฐานะรัฐมนตรี โดยกล่าวว่าตนไม่ได้เข้ามาทำเนียบนานเกือบ 10 ปี ตอนนี้ทำเนียบรัฐบาลเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่าง มีการปรับปรุงอาคารที่ดูสวยงามขึ้นได้กลับมาอีกครั้งก็ทำให้นึกถึงความหลังอยู่เหมือนกัน

Message us