เมื่อวันที่ 11 เมษายน พล.ท.ประสาน แสงศิริรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยหลังตรวจเยี่ยมกำลังพลจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์สองฝั่งริมน้ำน่าน สะพานวังจันทน์ถึงสะพานสุพรรณกัลยา ถึงสถานการณ์การสู้รบทหารเมียนมากับกลุ่มต่อต้านบริเวณชายแดนไทย-เมียนมาด้าน อ.แม่สอด จ.ตากว่า ประเทศไทยเราในฐานะเป็นพื้นที่ดินแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านได้รับผลกระทบ เราก็ได้มีการเตรียมความพร้อม โดยเตรียมกำลังไม่ให้มีการลุกล้ำเข้ามาในดินแดนเขตประเทศไทยและเตรียมการช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม
ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 3 ได้มีการแจ้งเตือนทางฝ่ายเมียนมาไปแล้ว และมีการขอความร่วมมือ เพื่อไม่ให้มีกระสุนเข้ามาในเขตพื้นที่ประเทศไทยและมีผลกระทบโดยเฉพาะในพื้นที่หมู่บ้านชุมชนที่ติดชายแดน ถ้าจะมีการใช้อากาศยาน อย่างน้อยก็จะมีผลกระทบชาวบ้านที่ข้ามมายังฝั่งไทยการใช้อาวุธกระสุนต่างๆ เชื่อว่าเขามีความระมัดระวังไม่ให้เข้ามายังฝั่งไทยแต่หากมีการข้ามเข้ามายังฝั่งไทย เราก็จะมีการตอบโต้ จากเบาไปหาหนัก
สำหรับ การค้าขายยังมีการข้ามมาค้าขายได้ตามปกติ โดยใช้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาทั้ง 2 แห่งเท่านั้น มีการข้ามสัญจรไปมารวมถึงการส่งสินค้าข้ามแดนอาจจะมีการลดลงไปบ้างเพราะว่าการเดินทางเข้าไปในเขตตอนในของประเทศเมียนมาอาจจะมีการค้าขายลดลงไปได้บ้าง แต่ก็ยังคงมีการค้าขายได้ตามปกติ ส่วนทางช่องทางธรรมชาติเราไม่ได้อนุญาตให้มีการข้ามอยู่แล้ว ถ้ามีการข้ามเข้ามาก็แสดงว่าลักลอบข้ามมาอย่างผิดกฎหมาย
แม่ทัพภาคที่ 3 ยืนยันว่า ได้รับการยืนยันว่า กองพัน 275 ของรัฐบาลเมียนมาแตกแล้ว ยอมจำนนตั้งแต่เมื่อคืน ล่าสุดรัฐบาลทหารเมียนมากำลังส่งทหารจากก๊อกอแระเข้ามาเมียวดีเพื่อตอบโต้ แต่ยังไม่ถึง ซึ่งสถานการณ์จังหวัดเมียวดียังปกติ ไม่แตก ซึ่งทางกองทัพภาคที่ 3 ได้สั่งเตรียมพร้อมและเพิ่มการลาดตะเวนเสริมกำลังคุมเข้มตลอดแนวชายแดน
ข่าว : นายชินวัฒน์ สิงหะ ผู้สื่อข่าวจังหวัดพิษณุโลก ภาพ : อัศวิน พินิจวงษ์ ผู้สื่อข่าวจังหวัดตาก
