แม่ค้า-อสม.แจ้งความปศุสัตว์และกองสธ.เทศบาลจับน้องหมาไปไม่รู้ชะตากรรม

เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน น.ส.หัสฎาพร ดำรงค์ อายุ 47 ปี แม่ค้าขายของในตลาดสดเทศบาลตำบลประโคนชัย  อ.ประโคนชัย  จ.บุรีรัมย์  พร้อมด้วย น.ส.ภนศมล  นภัทรพงศ์ อายุ 55 ปี อสม. และ น.ส.จันทร์ประภัส เจือมประโคน อายุ 55 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน พากันออกตามหาสุนัขเพศผู้ 2 ตัว คือ เจ้าดำ และเจ้าโดโด้ อายุประมาณ 3 – 4 ปี  ทั้งที่บริเวณบ่อขยะบ้านหนองบอน ต.หนองบอน ป่ายูคาลิปตัส ป่าอ้อย และขับรถตระเวนตามหมู่บ้านรอบพื้นที่บ่อขยะระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ต่อเนื่องเกือบสัปดาห์

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานปศุสัตว์อำเภอประโคนชัย และกองสาธารณสุขเทศบาลตำบลประโคนชัย นำอุปกรณ์ทั้งยาสลบ และกรง ไปจับสุนัขทั้ง 2 ตัว ที่บริเวณตลาดเทศบาลตำบลประโคนชัยแล้วนำไปทิ้งที่บ่อขยะบ้านหนองบอน ห่างจากเทศบาลตำบลประโคนชัยเกือบ 3 กิโลเมตร  สืบเนื่องจากได้มีพระรูปหนึ่งซึ่งมาเดินบิณฑบาตในตลาดแล้วไปแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าถูกสุนัขตัวสีดำกัด แต่ตอนที่เจ้าหน้าที่มาจับกลับไม่มีการตรวจสอบหรือสอบถามข้อมูลก่อนว่าสุนัขทั้ง 2 ตัวมีเจ้าของหรือคนดูแลหรือไม่ แต่กลับวางยาสลบจับใส่กรงแล้วนำไปปล่อยที่บ่อขยะ

อย่างไรก็ตาม เมื่อแม่ค้า และ อสม.ที่เป็นคนดูแลให้อาหารสุนัขทั้ง 2 ตัวทราบเรื่องในวันที่ 30 พฤษภาคม จึงได้ไปติดต่อกับทางเทศบาลเพื่อจะขอรับสุนัขกลับมาดูแล ตอนแรกเจ้าหน้าที่ก็อ้างโน่นอ้างนี่ไม่ยอมบอกว่าเอาสุนัขไปไว้ที่ไหน กระทั่งทาง ผอ.กองสาธารณสุขก็บอกว่า ได้เอาสุนัขไปไว้ที่บ่อขยะ เดี๋ยวจะให้เจ้าหน้าที่เอามาส่งแต่กลับหาสุนัขทั้ง 2 ตัวไม่เจอ  จึงตัดสินใจไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ประโคนชัย เพราะรับไม่ได้กับการกระทำของเจ้าหน้าที่และอยากให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ 

น.ส.ภนศมล อสม.กล่าวทั้งน้ำตาว่า รับไม่ได้กับการกระทำของเจ้าหน้าที่ที่นำสุนัขที่ดูแลอยู่ไปทิ้งบ่อขยะโดยไม่รู้ชะตากรรมไม่รู้จะกินน้ำและอาหารที่ไหน   เข้าใจว่าทำตามหน้าที่แต่ก็ควรจะสอบถามหาข้อมูลก่อนว่าสุนัขมีเจ้าของหรือผู้ดูแลหรือไม่ ยืนยันว่าไม่ใช่สุนัขจรจัดเพราะพวกตนให้ข้าวให้น้ำ ฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขให้ เจ็บป่วยก็พาไปรักษา ที่สำคัญเมื่อไปสอบถามพระที่แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าถูกสุนัขกัดจริงหรือไม่ จะได้ดูแลค่ารักษา แต่พอรู้ความจริงว่าไม่ได้ถูกกัดเลยแค่โดนสุนัขเห่าตอนมาเดินบิณฑบาตเท่านั้นยิ่งรู้สึกเสียใจ  ในฐานะที่ตนเป็นคนดูแลให้ข้าวให้น้ำสุนัขทั้ง 2 ตัวอยู่  โดยเฉพาะเจ้า “โดโด้” เป็นสุนัขที่หลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดกลางฝากดูแล เป็นสุนัขที่น่าสงสารมากไม่เคยกัดใครเพราะเหลือฟันแค่ซี่เดียว จึงมองว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่เกินกว่าเหตุเพราะไม่ได้ตรวจสอบว่ากัดคนจริงหรือไม่ อยากให้ทางปศุสัตว์ และกองสาธารณสุขรับผิดชอบตามหาสุนัขทั้ง 2 ตัวให้เจอแล้วจะยอมถอนแจ้งความ

ด้าน น.ส.หัสฎากร แม่ค้าบอกว่า  ก่อนเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์และกองสาธารณสุข จะมาจับสุนัขทั้ง 2 ตัวไป  มีพระรูปหนึ่งมาเดินบิณฑบาตในตลาดแล้วถูกสุนัขสีดำเห่าแล้ววิ่งไล่ตามแต่ไม่ได้กัด กระทั่งวันต่อมาถึงรู้ว่ามีเจ้ามาจับสุนัขทั้ง 2 ตัวไปทิ้งบ่อขยะ  โดยที่ไม่สอบถามว่ามีเจ้าของหรือป่าว แล้วหมาได้กัดพระจริงหรือเปล่า  

ด้าน นายสัตวแพทย์อภิชาติ  สุวรรณชัยรบ ปศุสัตว์จังหวัตบุรีรัมย์ ให้ข้อมูลว่า  จากรายงานของทางปศุสัตว์อำเภอทราบว่า เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม เวลา 15.30 น.ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดว่า มีสุนัขไม่มีเจ้าของไล่กัดผู้คนที่สัญจรไปมาในตลาดเทศบาลประโคนชัย สร้างความเดือดร้อนให้ผู้คนที่มาจับจ่ายตลาดเป็นมาก จึงได้ประสานทางเทศบาลประโคนชัยเพื่อไปตรวจสอบ พบสุนัขที่ได้รับแจ้ง จึงสอบถามทางพ่อค้า แม่ค้าที่อยู่ในตลาด ได้คำตอบว่า สุนัข 2 ตัวนี้ ที่ผ่านมาได้ไล่กัดคนหลายคนแล้ว  จึงพร้อมใจที่จะให้เอาสุนัข 2 ตัวออกไปจากตลาด ในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่เทศบาล และสำนักงานปศุสัตว์อำเภอประโคนชัย ก็พยายามประกาศหาเจ้าของ ก็ไม่มีใครแสดงตัว จึงได้จับสุนัข 2 ตัวไปขังไว้ในกรงเหล็กสำหรับไว้ขังสัตว์ชั่วคราว เพื่อดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนของระเบียบข้อบัญญัติของเทศบาล และ พ.ร.บ.พิษสุนัขบ้า ปี 35 ต่อไป

ต่อมาเช้าวันที่ 30 พฤษภาคม เมื่อเจ้าหน้าที่ไปดูจุดที่ขังสุนัขไว้ ปรากฏว่า สุนัข 2 ตัวที่ขังไว้ได้หลุดออกจากกรงไปจึงประสานทาง เทศบาลเพื่อตามหาสุนัข 2 ตัวที่หลุดไป เหตุเกิดบริเวณบ่อขยะทางไป ต.หนองบอน เนื่องจากบริเวณนี้คาดการณ์ไว้ว่าจะทำเป็นแหล่งพักพิงสุนัขจรจัด ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทำตามหน้าที่แต่อาจจะมีข้อมูลที่คลาดเคลื่อนหรือไม่ กรณีสุนัขมีเจ้าของหรือไม่มีเจ้าของ ก็ต้องมีการพูดคุยกันอีกครั้ง

ข่าว/ภาพ : สุรชัย พิรักษา ผู้สื่อข่าวจังหวัดบุรีรัมย์

Message us