
เมื่อวันที่ 5 กันายายน สาวแม่ค้า อายุ 26 ชาว อ.ปลาปาก จ.นครพนม ออกมาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ พร้อมสะท้อนเตือนภัยสังคม กรณีหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อแก๊งเงินกู้นอกระบบ ในรูปแบบออนไลน์ หลังตกงานหวังกู้เงินมาลงทุนค้าขาย จึงพบเห็นมีการเปิดให้กู้ผ่านระบบออนไลน์ แอพพลิเคชั่นไลน์ จึงทดลองเข้าไปทักแชท สอบถามรายละเอียดพูดคุย ก่อนแจ้งข้อมูลเอกสารบัตรประจำตัวประชาชน รวมถึงที่อยู่หมายเลขโทรศัพท์มือถือ พร้อมได้รับอนุมัติวงเงินกู้งวดแรก จำนวน 30,000 บาท แต่ถูกหักดอกเบี้ยล้วงหน้า 10,000 บาท รับเงินจริง แค่ 20,000 บาท เงื่อนไขส่งคืนเต็ม 30,000 บาท ในเวลา 7 วัน แต่งวดแรกหาเงินส่งคืนทัน
ต่อมางวดที่สองจึงได้รับอนุมัติวงเงินกู้เพิ่มเป็นเงิน 50,000 บาท หักดอกเบี้ยล่วงหน้าตามเดิม รับเงินจริง จำนวน 32,000 บาท กำหนดจ่ายเงินคืนภายใน 7 วัน จากนั้นเกิดปัญหาสภาพคล่อง นำเงินไปค้าขาย ไม่สามารถส่งคืนได้ตามกำหนด จึงตัดสินใจไปกู้ผ่านระบบออนไลน์ เจ้าอื่นเพื่อหมุนเวียน ในรอบ 2-3 เดือน ไม่ทราบมาก่อนว่า หากเลยกำหนดชำระ จะถูกเรียกทั้งดอกเบี้ย รวมถึงค่าปรับล่าช้า อีกหลาย 10 เท่า

จนกระทั่งเกิดปัญหาทับถม ทั้งต้นทั้งดอกจากการกู้ออนไลน์ รวม 18 เจ้า เป็นหนี้ทั้งต้นทั้งดอก รวม 2.6 ล้านบาท ถูกติดตามให้ชำระต้นรวมดอกวันละประมาณ 1.5 แสนบาท แต่ไม่ไหว ทำให้ถูกคุกคามข่มขู่ทุกรูปแบบ พร้อมโพสต์ประจาน เชื่อว่า มีการทำเป็นขบวนการ จึงเกรงจะเกิดอันตรายกับตน และครอบครัว เบื้องต้นจึงได้เข้าแจ้งความเป็นหลักฐานกับ พนักงานสอบสวน สภ.ปลาปาก เพื่อพิจารณาดำเนินคดีในส่วนที่มีความผิดเกี่ยวกับการทวงหนี้ รวมถึงออกมาร้องทุกข์ผ่านสื่อ สะท้อนปัญหาไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้อง เตือนภัยสังคม เรียกร้องให้ภาครัฐปราบปรามจริงจัง โดยยืนยันไม่มีเจตนาเบี้ยวหนี้ แต่พร้อมที่จะชำระหนี้ตามกฎหมาย และดอกเบี้ยตามความเป็นจริง
สาวแม่ค้า อายุ 26 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ยืนยันไม่มีเจตนาจะเบี้ยวหนี้ แต่เริ่มแรกต้องการนำเงินมาลงทุนค้าขาย เพราะตกงาน จึงทดลองกู้ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ที่มีการโฆษณาชวนเชื่อ ไม่คิดว่าจะได้จริง จึงทำการกู้รอบแรก และมีการชำระคืน จนได้วงเงินเพิ่ม อีกเท่าตัว จากนั้นมีข้อพิรุธว่า จะมีนายทุนเงินกู้นอกระบบออนไลน์ อีกจำนวนมากเข้ามาทักแชท ผ่านไลน์ ชักชวนให้กู้ยืม ส่วนใหญ่จะเป็นไลน์อวตานไม่มีตัวตน จึงหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อมารู้ทีหลังว่าเป็นนายทุนคนเดียวกัน แต่ทำงานเป็นทีม ยอมรับหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อเพราะคิดง่าย ปัจจุบันเป็นหนี้ทบต้นดอก และรวมค่าปรับล่าช้า รวม 2.6 ล้านบาท ถูกข่มขู่ให้ผ่อนชำระวันละประมาณ 1.5 แสนบาท ทั้งที่รับเงินจริงแค่ 4-5 แสนบาท

ทั้งนี้ สุดท้ายไม่มีความสามารถที่จะจ่ายไหว ทำให้ถูกข่มขู่คุกคามจะทำร้ายทุกรูปแบบ จึงต้องออกมาขอความช่วยเหลือจากทางภาครัฐหน่วยงานตำรวจ และสะท้อนปัญหาผ่านสื่อ เตือนภัยสังคมและเรียกร้องให้ปราบปรามขบวนการปล่อยเงินกู้ออนไลน์ อย่างจริงจัง โดยพร้อมที่จะชดใช้หนี้ตามกฎหมาย เป็นยอดเงินตามจริงที่รับเงินมา แต่หากถูกข่มขู่คุกคาม ทวงหนี้ผิดกฎหมาย จะต้องดำเนินคดีเช่นกัน ปัจจุบันยังมีการโทรมาข่มขู่คุกคามทุกวัน และยืนยันคำเดียวจะให้ชำระหนี้คืนทั้งหมด ไม่ให้ผ่อนชำระ ไม่มีส่วนลด
ข่าว/ภาพ : พัฒนพงษ์ ศรีเพียชัย ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครพนม