
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดบ้านทรัพย์เจริญ หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านราษฎร์ อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีการจัดงานศพแต่เป็นงานศพสุดแปลกที่ไม่มีความเศร้ามีแต่เสียงหัวเราะและรอยยิ้มของชาวบ้านในพื้นที่ โดยงานศพจัดขึ้นเหมือนศพทั่วไป มีการสวดอภิธรรม การถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ การสวดบังสุกุล การจุดธูปเคารพศพ

นอกจากนี้ ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ล้วนแต่งกายด้วยชุดไว้ทุกข์สีดำ ก่อนที่จะมีการนำโลงศพผูกด้วยสายสินจน์พร้อมเดินแห่รอบเมรุ โดยในระหว่างเดินรอบเมรุนั้นก็จะมีการโปรยทานและจะสังเกตุได้ว่าจะได้ยินเสียงของชาวบ้านที่ร่วมเดินรอบเมรุนั้นหัวเราะและมีรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลกประหลาดใจสำหรับงานงานศพที่มีแต่ความเศร้าโศก

ภายหลังจากนำโลงศพเดินแห่รอบเมรุแล้วก็จะเข้าสู่ขั้นตอนของการฌาปนกิจ ทางกลุ่มชาวบ้านจึงได้มีการนำโลงศพแบกขึ้นเมรุเพื่อทำพิธีฌาปนกิจ เหมือนพิธีฌาปนกิจทั่วไปก่อนทำการฌาปนกิจจะมีการเปิดฝาโลงเพื่อให้ญาติให้ล่ำลาและสั่งเสียเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเข้าเตาเผา แต่พอเปิดโลงออกมาก็ต้องตกใจเพราะภายในโลงแทนที่จะเป็นศพ กลับกลายเป็นต้นกล้วย จากนั้นก็เริ่มพิธีฌาปนกิจโดยชาวบ้านต่างเดินขึ้นมาวางดอกไม้จัน สุดท้ายก็ส่องเลขที่อยู่บนฝาโลงและเลขที่ปรากฎอยู่บนรถเข็นโลงศพ

นายอาเขต แววกระโทก ผู้ใหญ่บ้านบ้านทรัพย์เจริญ เปิดเผยว่า เนื่องจากวัดได้มีการบูรณะซ่อมแซมเมรุเผาศพ ทางผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านต่างก็ได้รวมเงินกันและเปิดรับบริจาคผ่านทางเฟซบุ๊กโอนเงินเข้ามาทางวัด เพื่อสมทบทุนในการบูรณะเมรุเผาศพ ที่มีสภาพเก่าทรุดโทรม เนื่องจากสร้างมานานแล้ว หลังจากได้มีการซ่อมแซมเสร็จแล้ว ตนฝันว่ามีวิญญาณหลายร้อยตนไปหาที่บ้าน จึงบอกวิญญาณเหล่านั้นว่าจะมีการทำบุญให้พร้อมกับการแก้เคล็ดตามขนบธรรมเนียมประเพณีโบราณคือ หากมีการสร้างเมรุใหม่หรือมีการซ่อมแซมจะต้องมีการเผาหลอก โดยทางชุมชนไม่อยากให้มีใครตายหรือเสียชีวิตจึงต้องมีการแก้เคล็ด โดยการเผาหลอกใช้ต้นกล้วยมาแทนศพคนตาย โดยมีกุศโลบายว่า กล้วยนั้นเป็นการสื่อแทนสิ่งที่ อะไรยากๆ จะได้เป็นเรื่องง่ายๆ เหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก และเป็นเรื่องความสามัคคีของชาวบ้านภายในชุมชนด้วย
ข่าว/ภาพ : ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครราชสีมา

