“เสรีพิศุทธ์”แย้มจับมือ”ลุงป้อมได้”ยกเว้น”ลุงตู่-ทรสช.”

เมื่อวันที่ 15 ก.ค. พรรคเสรีรวมไทยจัดประชุมใหญ่สามัญ ประจำปีครั้งที่สอง / 2566 ที่โรงแรมริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ โดยเป็นการประชุมเพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหาร 2 ตำแหน่งที่ว่าง คือ รองหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค โดยนายวิรัตน์ วรศสิริน เลขาธิการพรรคลาออกและได้รับการเลื่อนไปเป็นรองหัวหน้าพรรค และที่ประชุมได้เสนอให้นายมังกร ยนต์ตระกูล ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ ขึ้นเป็นเลขาธิการพรรคแทน ส่วนตำแหน่งกรรมการบริหารอื่นๆ ยังคงเป็นเช่นเดิม

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส. บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวเปิดการประชุมว่า ขอให้กำลังใจกับสมาชิกพรรค กรรมการบริหารพรรค และผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทุกคนที่สอบตก หลังพรรคเสรีรวมไทยได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเพียง 1 คน ยอมรับว่ามันเป็นเรื่องกระแสที่คนไทยอยากได้อย่างนี้

ทั้งนี้ ขอแสดงความเสียใจในการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค. แต่ทุกคนอย่าเสียใจ เพราะการเลือกตั้งครั้งหน้าต้องเปลี่ยน แต่ครั้งนี้ประชาชนต้องการแบบนี้ เชื่อว่าสมาชิกพรรค มีความรู้ความสามารถ เช่น ตนเข้าไปทำหน้าที่ ส.ส. ครั้งที่เเล้วเเละพบว่า ส.ส. บางคนไม่มีคุณภาพ เอาแต่ผลประโยชน์ของตัวเองและผลประโยชน์ของพรรค ไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ประเทศชาติส่วนรวม ซื้อ ขายตำแหน่งยิ่งกว่าข้าราชการเสียอีก

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 19 ก.ค.เป็นครั้งที่สอง ว่า จะเสนอ 1-3 ชื่อได้ทั้งนั้นเพราะไม่มีข้อบังคับการประชุมระบุไว้ เช่น จะเสนอชื่อ พล.อ.ปะยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลอีกก็ได้ เพราะข้อบังคับที่อ้างนั้นมันเกี่ยวกับข้อบังคับการประชุมเท่านั้น คนละเรื่องกับการเลือกนายกฯ ดังนั้นเวลาอ่านหนังสือควรอ่านทั้งเล่มเเล้วค่อยมาพูดกัน ไม่ใช่อ่านแค่ข้อบังคับข้อที่ 41 ข้อเดียว แต่จะเถียงกันเช่นใดก็อยู่ที่อำนาจของประธานรัฐสภาว่า จะอนุญาตหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ส.และส.ว.น่าจะหารือเรื่องนี้กันหนักและอาจลงมติไม่ได้ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า หากตนเป็นประธานรัฐสภาจะไม่ให้หารือ เพราะพูดกันไปหมดแล้ว การลงมติวันที่ 13 ก.ค.คือการลงมติเลือกนายกฯ แต่กลับเป็นการอภิปรายประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 แทน

“ผมเห็นว่าในการโหวตรอบที่ 2-3 สามารถเสนอชื่อนายพิธาได้ เพราะไม่ได้ถูกตัดสิทธิ์อะไร ช่วงเวลาก่อนที่จะถึงวันโหวตครั้งต่อไปก็เป็นเวลาที่พรรคก้าวไกลจะต้องไปเจรจารวบรวมเสียง ส.ว. แต่ยอมรับว่าโอกาสของพรรคก้าวไกลไม่มาก ส่วนใหญ่ปิดกั้นตัวเอง ยกมาตรฐานสูง เชื่อว่าในการโหวตวันที่ 19 ก.ค.พรรคเพื่อไทยจะไม่เสนอชื่อแข่ง แต่ยังเปิดให้พรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรี สนับสนุนกันเต็มที่ จะลงมติรอบที่ 2-3-4 ก็ได้ และไม่ต้องมีการอภิปรายแล้ว เมื่อเปิดประชุมก็ให้ลงมติได้เลย โหวตเลย”พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าว

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลจะต้องหารือกัน และหารือร่วมกับพรรคอื่นใน 8 พรรคจัดตั้งรัฐบาล ส่วนพรรคก้าวไกลจะถอยหรือไม่เพื่อให้พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน หรือน.ส.แพทองธาร ชินวัตรนั้น แม้จะเปลี่ยนเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เชื่อว่า พรรคเพื่อไทยยังคงจับมือกับพรรคก้าวไกล เนื่องจากมีการประกาศมาตลอด จะเสียคำพูดได้อย่างไร หากเสียคำพูดก็คบกันไม่ได้

สำหรับ จุดยืนของพรรคเสรีรวมไทยคือ พร้อมร่วมกับทุกพรรคจัดตั้งรัฐบาล ยกเว้นพรรคเผด็จการ หรือพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ แต่จับมือกับพล.อ.ประวิตรได้ ตนไม่ใช่คนที่จะปิดกั้นตัวเอง

Message us