เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าพรรคเพื่อไทย เพื่อรายงานความคืบหน้าการรีแบรนด์พรรคเพื่อไทย และร่วมประชุมคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย โดย นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมว่า ในวันนี้เข้ามารายงานการดำเนินการพัฒนา รีแบรนด์ และเตรียมความพร้อมพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้า รวมถึงปรึกษาหารือและขอความเห็นนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานนโยบาย พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าตนไม่เกี่ยวข้องกับการทำงานของคณะทำงานประสานงานช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล หรือคณะกรรมการประสานงานจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้การรีแบรนด์พรรคอยู่ระหว่างการดำเนินงาน ตนขอเวลาสักระยะ หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองการจัดตั้งรัฐบาลอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ได้มองอะไร เพียงแต่ติดตามการทำงาน และเป็นกำลังใจ อยากให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ เพราะเป็นฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกัน ขออวยพรให้สำเร็จเมื่อถามว่า คดีหุ้นสื่อของนายพิธา หากมีอุบัติเหตุทางการเมือง พรรคเพื่อไทย จะรับหน้าที่นั้นหรือไม่อย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่าส่วนตัวไม่เคยคิด เป็นหน้าที่ของพรรคก้าวไกล ที่มีขั้นตอนการทำงาน เป็นพรรคที่ชนะการเลือกตั้งได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่ง ต้องให้เกียรติพรรคก้าวไกลในการจัดการ ส่วนพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคอันดับสอง พร้อมย้ำว่า ส่วนตัวไม่ได้เกี่ยวข้องกับการฟอร์มทีมรัฐบาล หรือคณะทำงานการเปลี่ยนผ่าน ตนทำงานในส่วนของพรรคเพื่อไทยเท่านั้น ซึ่งในวันนี้มาเข้าร่วมประชุมการรีอแบรนด์พรรค และคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจเท่านั้น ไม่ได้พูดคุยเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่พรรคเพื่อไทยดำเนินการฟ้องกลับนักร้องต่างๆ เรื่องนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นเรื่องของฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยดำเนินการ ตนเองไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งรับทราบเรื่องนี้จากการติดตามข่าวเมื่อช่วงเช้าวันนี้ เมื่อถามเรื่องการกลับประเทศไทยของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องการกลับบ้านของ ดร.ทักษิณ ต้องถาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หน้าที่ของตนคือการช่วยเหลือพรรคในการต่อสู้เลือกตั้งครั้งต่อไป
ผู้สื่อข่าวได้ถามกรณีการพูดคุยในครอบครัวชินวัตร มองว่า น.ส.แพทองธารยังไม่เหมาะสมที่เป็นนายกรัฐมนตรีในตอนนี้ นายเศรษฐา กล่าวว่า น.ส.แพทองธาร มีความเหมาะสม และเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเป็นผู้หญิงที่เก่ง และตนเชื่อว่าพี่น้องสื่อมวลชนเห็นฝีมือ เห็นวิธีการทำงาน อายุ 36-37 ปี ถือว่ามีวุฒิภาวะที่ดีพอ ไม่อย่างนั้นพรรคเพื่อไทยคงไม่ใส่ชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งกรรมการบริหารบริหารพรรคมีมติเห็นชอบแล้วด้วย
จากนั้นนายเศรษฐา ได้ไปที่ร้าน Thinklab สั่งกาแฟอเมริกาโนเย็น ไม่ใส่น้ำตาล โดยให้คะแนน 9 เต็ม 10
