“เศรษฐา”อ้าแขนรับ”พปชร.-รทสช.”ทำงานร่วมกับ 2 ลุงได้

เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ที่สนามกีฬาบุณยะจินดา สโมสรตำรวจ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสสนับสนุนและคัดค้านที่ออกมาช่วงนี้ ว่า เป็นธรรมดาตามระบอบประชาธิปไตยที่มีคนรักและมีคนชอบ ส่วนที่กรรมาธิการ (กมธ.) จริยธรรมวุฒิสภา (สว.) รับเรื่องนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ให้ตรวจสอบนั้น การเป็นนักการเมืองต้องตรวจสอบได้ ตนยืนยันในความบริสุทธิ์ เชื่อว่ากรรมาธิการจริยธรรมจะให้ความเป็นธรรมกับตน ส่วนเรื่องของนายชูวิทย์ ตนขออาศัยสิทธิตามกฎหมายที่จะต้องปกป้องสิทธิของตัวเอง วันนี้ ตนเดินหน้าเรื่องการเมือง ยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลจะมีผลต่อเสียงสนับสนุนในรัฐสภาหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า หากพิสูจน์แล้วว่าได้ทำถูกต้องตามกฎหมาย คิดว่าจะได้รับความไว้วางใจ ส่วนการแสดงวิศัยทัศน์ต่อรัฐสภานั้น ตนไม่ได้เป็นสส. แต่หากได้รับเลือกแล้ว คงต้องมีการชี้แจง เมื่อถามว่า เสียงสส.ที่พรรคเพื่อไทย รวมได้เป็นจำนวนมาก มั่นใจหรือไม่ว่าจะมีเสียงสว.เข้ามาเพิ่ม นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนว่าคณะเจรจากำลังเจรจาอยู่ มั่นใจว่าในสภาวะการเมืองที่ไม่ปกติ หวังว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนจากทั้งสว.และทุกพรรคการเมือง และหวังว่าจะได้เสียงตอบรับที่ดี 

เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะได้รับคะแนนเสียงในการได้รับเลือกเป็นนายกฯ ในครั้งเดียว นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนมีความมั่นใจเพราะเชื่อในสิ่งที่ทำมา ตนมองว่าในช่วงสถานการณ์การเมืองที่ไม่ปกติ ที่พรรคเพื่อไทย ได้รับไม้ต่อในการจัดตั้งรัฐบาล เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องรวบรวมเสียงให้พอ เพื่อเข้าไปมีอำนาจรัฐและจัดการปัญหาของบ้านเมือง 

เมื่อถามว่า ตอนนี้มีโผลคณะรัฐมนตรี (ครม.) ออกมาแล้ว และได้เป็นนายกฯจริง จะเป็นคนที่ต้องเลือกรัฐมนตรีเองหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรามีพรรคร่วมหลายพรรค ตนได้โหวตให้เป็นนายกฯ ก็คงมีส่วนร่วมในการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้เสียงสนับสนุนจากพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ จะมาช่วยยกมือสนับสนุน ถึงเวลานั้นจะสามารถทำงวานร่วมกับพรรค 2 ลุงได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า อย่าพึ่งคิดไปไกลขนาดนั้น วันนี้เราได้มีการแถลงจับมือกับหลายพรรคไปจนมาถึงวันนี้ก็ถือว่าเป็นการพัฒนาในระดับที่ดีแล้ว และขอขอบคุณสส.ทั้ง 40 คนของพรรคพลังประชารัฐ ที่จะยกมือโหวตให้ เอาไว้ให้ผ่านการโหวตนายกฯแล้ว ค่อยมาพูดคุยกันภายหลัง 

เมื่อถามย้ำว่า ไม่ขัดใช่หรือไม่ที่จะทำงานร่วมกับ 2 ลุง นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคิดว่าเอาเรื่องหลักการเป็นหลักดีกว่า ตนมองว่าเรื่องนโยบาย เรื่องของประชาชนและเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่ที่เราต้องมาช่วยกัน   เมื่อถามว่าหากพูดเรื่องหลักการ ก่อนหน้านี้ที่บอกจะไม่ร่วมมือกับ 2 ลุง แต่ตอนนี้เหมือนจะปิดดีลกับ 2 ลุงได้แล้ว นายเศรษฐา กล่าวว่า นอกเหนือจากพรรคที่ได้มีการแถลงข่าวไป ตนเองก็พูดได้แค่นี้ แต่อยากเชิญสส.ที่มีเอกสิทธิ์ ช่วยร่วมโหวตให้ผ่าน เสร็จแล้วค่อยมาว่ากันว่าจะทำอย่างไรต่อไป 

เมื่อถามว่า หากท้ายที่สุดพรรคเพื่อไทยต้องจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติจะมีปัญหาหรือจะมีการแสดงออกอย่างไรหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่มี เรื่องของการเลือกตั้งผ่านไปแล้ว เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ผลก็เป็นที่ประจักษ์แล้ว วันนี้เราต้องอยู่กับความเป็นจริง เราต้องการมีรัฐบาลพรรคเพื่อไืย ในการที่จะแก้ปัญหาของประชาชน แก้ไขเรื่องรัฐธรรมนูญ แก้ไขเรื่องความขัดแย้ง จำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องเข้ามาเป็นรัฐบาล เรื่องของนโยบายพรรคร่วมก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาในการเข้ามาแก้ไขปัญหาของประชาชน

เมื่อถามว่ ากลัวว่าสิ่งที่เคยพูดไปก่อนหน้านี้จะกลับมาทิ่มแทงตัวเองหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคิดว่าการกระทำหรือการพูดต้องมีคำอธิบายทุกอย่าง  เมื่อถามว่าตอนนี้เหมือนทั้ง 2 พรรคจะมาสนับสนุนพรรคเพื่อไทย แสดงว่ามีคำอธิบายไว้แล้วใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ต้องมาพูดคุยอีกที

เมื่อถามว่า วัตถุประสงค์หลักของการเป็นรัฐบาลคือการแก้รัฐธรรมนูญปี 60 แต่มีพรรค 2 ลุงที่เป็นผู้คลอดรัฐธรรมนูญฉบับนี้เข้าร่วมจะยังยืนยันแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า หากเขาจะเข้ามาร่วมเขาจะต้องเข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นนโยบายหลักของรัฐบาลโดยการนำของพรรคเพื่อไทย ว่าต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่า แม้มี 2 พรรคนี้เข้าร่วมเราก็จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ

 

Message us