“เศรษฐา”ชูแลนด์บริดจ์ไทยในวงหารือกับนายกฯจีนยันเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์โลก

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการหารือทวิภาคีกับนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีนว่า ได้ให้ความมั่นใจว่า ไทยจะพัฒนาโครงการบีอาร์ไออย่างต่อเนื่อง และได้มีการลงรายละเอียดเกี่ยวกับการพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูง เรื่อง การขนถ่ายสินค้าจากไทยไปจีนผ่านลาวที่พบว่า ยังมีอุปสรรค คือ สะพานข้ามแม่น้ำโขงจากหนองคายไปลาว  โดยตนเองได้บอกนายกฯ จีนว่า ควรจะมีการผลักดันให้เกิดขึ้น เพื่อให้การขนถ่ายสินค้าเป็นไปด้วยดี หากมีการสร้างสะพานดังกล่าวในช่วงจังหวัดหนองคาย ก็จะมีการสร้างศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าด้วย พร้อมยืนยันว่าในการประชุม ครม.ที่ผ่านมา ได้มีการอนุมัติรถไฟรางคู่จากขอนแก่นไปหนองคาย เพื่อบรรเทาความแออัด ในการขนถ่ายสินค้า ระหว่างการสร้างรถไฟความเร็วสูง

นอกจากนั้น ยังได้แจ้งว่า รัฐบาลได้มีการอนุมัติการทำการศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ ทำให้ประเทศไทยในอนาคตจะไม่ใช่แค่เส้นทางผ่านการขนถ่ายสินค้าอย่างเดียว แต่จะเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของโลก เพราะหากโครงการนี้เกิดขึ้นจะเป็นโครงการเมกกะโปรเจคที่ตอบโจทย์ปัญหาความแออัดของการขนถ่ายสินค้าทั่วโลกได้ โดยไม่ต้องผ่านช่องแคบมะละกา ซึ่งจะลดระยะทางและลดความแออัดลงได้  ดังนั้นการมีแลนด์บริดจ์เชื่อมต่อระหว่างอันดามัน-อ่าวไทย จะเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะทำรายได้ให้กับประเทศไทยอย่างมาก จะไม่ใช่การขนถ่ายสินค้าระหว่างจีนผ่านไปอินเดีย ไปตะวันออกกลางและแอฟริกาอย่างเดียว แต่จะสร้างความมั่นใจกับนักลงทุนจีนว่า การสร้างโรงงานที่ประเทศไทย จะทำให้การขนถ่ายสินค้า  ขนส่งกระจายไปทั่วโลกอย่างสบาย  ซึ่งนายกฯ จีนได้ให้ความสนใจอย่างมาก เพราะแลนด์บริดจ์จะเป็นโครงการที่มาเสริมให้บีอาร์ไอมีศักยภาพ และเชื่อมโยงกับทั่วโลกได้ สอดคล้องกับเจตนาของประเทศจีน  

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การมาจีนครั้งนี้ รัฐบาลประสบความสำเร็จ และมั่นใจว่าหากเกิดแลนด์บริดจ์  รวมทั้งการลงทุนด้านรถไฟฟ้าอีวี ซึ่งขณะนี้มีเข้ามาแล้ว 4 บริษัท และจะได้เจรจาอีก 2 บริษัท จะสามารถสร้างเม็ดเงินกว่าล้านล้านบาท นับตัวเลขไม่ได้ เพราะประเทศจีนพัฒนาเยอะมาก และเป็นความโชคดีที่ไทยตั้งอยู่จุดยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญ เรามีความเป็นกลาง มีความเป็นมิตร 

“ผมรู้สึกว่ามีความผูกพันที่ดีมากๆ กับนายกฯ จีน ท่านได้ให้เบอร์มือถือไว้ หากมีอะไรก็สามารถโทรพูดคุยได้  ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี โดยสองประเทศต้องพึ่งพากัน โดยเราต้องพึ่งจีนในฐานะที่เป็นพี่ใหญ่ ในงานเลี้ยงอาหารค่ำวานนี้ ในการแสดงดนตรีร้องเพลงไทย คือ เพลงลอยกระทง มีการฝึกกันนานมาก แสดงให้เห็นว่าจีนให้ความสำคัญกับเรา ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยดีมาก” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยกันถึงการนำเข้า-ส่งออกสินค้าการเกษตร ซึ่งจีนพร้อมสนับสนุนทุกมิติ โดยตนได้ขอให้การนำเข้าวัวของจีน ที่เป็นนโยบายหลักของไทย ที่จะส่งออกวัวให้กับจีนที่เป็นตลาดใหญ่ แต่เนื่องจากปัจจุบันการส่งออกวัวจะต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐานที่ประเทศลาว รัฐบาลไทยจึงขอให้มีการศูนย์ตรวจสอบที่ประเทศไทย ซึ่งจะทำตามกฎของประเทศจีนทุกอย่าง เช่น การตรวจโรค การฉีดวัคซีน ซึ่งมีความสำคัญมาก จะทำให้การพัฒนาส่งออกวัวได้เร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางราง หรือทางเรือ ไม่ต้องไปพึ่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยนายกฯ จีนยืนยันให้ความสำคัญและจะพิจารณาข้อเสนอของไทย  ขณะเดียวกัน ยังได้หารือเรื่องวีซ่าฟรี ขณะนี้รัฐบาลได้อนุมัติให้คนจีนเข้าไทยได้โดยไม่ต้องมีวีซ่าตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ถึง 29 ก.พ.67  แต่รัฐบาลมีความประสงค์จะขยายให้เป็นแบบระยะยาว ทางจีนรับไปพิจารณา แต่ส่วนตัวมั่นใจว่าน่าจะได้รับการตอบสนองที่ดี  

นายเศรษฐา กล่าวถึงการหารือกับนายกฯ จีน ถึงการแก้ปัญหาการจัดซื้อเรือดำน้ำ ที่ยังติดปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ว่า  ทั้งสองฝ่ายจะมีการแก้ปัญหาอย่างบูรณาการ นายกฯ จีนรับปากว่าจะไปช่วยดูให้ ขณะที่ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ได้พูดคุยกับกองทัพจีนด้วย  โดยช่วงบ่ายวันนี้ ตนเองจะได้พบกับนายสี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีจีน ก็จะได้มีการพูดคุยต่อเนื่อง  ส่วนรายละเอียดขอให้ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมชี้แจงต่อไป

Message us