เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีกำหนดอ่านคำวินิจฉัยคดีที่ 40 สว. ยื่นคำร้องให้ศาลวินิจฉัยกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่า นายพิชิต ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ซึ่ง นายเศรษฐา ได้มอบหมายให้ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้ารับฟังแทน ซึ่งที่ผ่านมา นายเศรษฐา ได้ส่งเอกสารคำแถลงปิดคดีแบบลายลักษณ์อักษร ถึงศาลรัฐธรรมนูญ รวม 32 หน้า เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ มีรายงานการวิเคราะห์ 2 แนวทาง ต่อคดีดังกล่าว ดังนี้ หากผลเป็นลบ นายเศรษฐา สิ้นสุดพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ทันที และ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ คนที่ 1 ทำหน้าที่รักษาการนายกฯ และหากผลเป็นบวก นายกฯ ปฎิบัติหน้าที่ต่อ
สำหรับ บรรยากาศช่วงเช้า บริเวณรอบสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ มีมาตรการการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 และ สน.ทุ่งสองห้อง เข้ามาดูแลความปลอดภัย วางแผงรั้วเหล็กกั้นโดยรอบพื้นที่ทั้งด้านในและด้านนอกอาคาร เป็นไปตามประกาศศาลรัฐธรรมนูญ เรื่อง อาณาบริเวณหรือพื้นที่ที่กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญและสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติงาน รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย ห้ามผู้ใดเข้ามาในพื้นที่ควบคุม เว้นแต่ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้มาปฏิบัติงาน หรือมาติดต่อราชการและต้องผ่านการตรวจตัวบุคคลและสิ่งของที่นำมา ตามวิธีการของเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานซึ่งมีหน้าที่ด้านการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย
สำหรับ บุคคลที่จะเข้าฟังการอ่านคำวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตให้เฉพาะคู่กรณีและบุคคลที่เกี่ยวข้องเท่านั้น โดยจะต้องแลกบัตร และฝากสิ่งของ อาทิ กระเป๋า โทรศัพท์มือถือ เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ พร้อมทั้งผ่านจุดตรวจค้นอาวุธบริเวณเชิงบันไดทางขึ้นห้องพิจารณาคดี โดย สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ติดตั้งจอทีวีพร้อมลำโพง เพื่อถ่ายทอดการอ่านคำวินิจฉัยให้กับสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศที่มาฟังคำวินิจฉัยไว้ภายในอาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ บริเวณหน้าห้องสื่อมวลชน สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญด้วย
นอกจากนี้ ทางฝั่ง สว. จะเข้ามาร่วมฟังคำวินิจฉัยด้วย 2 คน คือ นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม และนายสมชาย แสวงการ อดีต สว. ทั้งคู่คือ ผู้ที่ร้องต่อศาลให้วินิจฉัยคดีนายกฯเศรษฐา
