
เมื่อวันที่ 4 มกราคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครราชสีมา จ.นครราชสีมา นายสุนทร ชาว อ.เมือง จ.นครราชสีมา เดินทางเข้าพบนายสุรพงษ์ ทิพย์โอสถ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครราชสีมา เพื่อร้องขอให้ตรวจสอบการกระทำอันอาจจะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งของ นางยลดา หวังศุภกิจโกศล ผู้สมัครนายก อบจ.นครราชสีมา เบอร์ 2 พรรคเพื่อไทย และพวก จำนวน 35 คน ซึ่งเป็นผู้สมัคร ส.อบจ.นครราชสีมา
นายสุนทร กล่าวว่า วันนี้มาในฐานะประชาชนชาวโคราชคนหนึ่ง เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.และ ส.อบจ.ในพื้นที่ อยากเห็นผู้สมัครทุกคนมีความสุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ จึงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร วันนี้มาร้องเรียนขอให้ กกต.ประจำจังหวัดนครราชสีมา ตรวจสอบคุณสมบัติของนางยลดา อดีตนายก อบจ.นครราชสีมา คนล่าสุด ซึ่งพบว่าขณะดำรงตำแหน่งนายก อบจ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2567 ในการประชุมสภา อบจ.นครราชสีมา สมัยสามัญที่ 2 ครั้งที่ 3 ได้ยื่นญัตติขออนุมัติโอนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ไปตั้งจ่ายเป็นรายการใหม่ โดยมี ส.อบจ.เข้าร่วมประชุม จำนวน 39 คน ยกมือเห็นชอบตามที่ นายก อบจ.นครราชสีมา เสนอญัตติ จำนวน 36 คน (รวมนายก อบจ.) และงดออกเสียง จำนวน 3 คน
ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวมีลักษณะเป็นการไม่ปฏิบัติตามมาตรา 65 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 (และแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2) พ.ศ.2566 รวมทั้งสิ้น 12 โครงการ เป็นเงินทั้งสิ้น 23,873,918 บาท เนื่องจากในห้วงระยะเวลาดังกล่าวไม่มีภัยธรรมชาติหรือภัยพิบัติแต่อย่างใด
ต่อมา นางยลดาได้ขอลาออกจากตำแหน่งนายก อบจ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 พร้อมกับ ส.อบจ.ในกลุ่มอีก 15 คน ก่อนจะลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.ในครั้งนี้ การกระทำของนางยลดาและ ส.อบจ.เกี่ยวกับการอนุมัติโครงการดังกล่าว อาจเป็นการกระทำฝ่าฝืนต่อ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 (แก้ไขเพิ่มเติม ฉบันที่ 2) พ.ศ.2566 มาตรา 65 ซึ่งมีโทษตาม 126 แห่งกฎหมายดังกล่าวหรือไม่ เนื่องจากหากพบว่า กระทำผิดจริงก็อาจถึงขั้นโดนใบแดงได้เลย วันนี้จึงมาร้องขอให้ กกต.ประจำจังหวัดนครราชสีมา เร่งดำเนินการตรวจสอบ เพราะจะมีผลกระทบต่อความไม่สุจริตในการเลือกตั้งนายก อบจ.และ ส.อบจ.นครราชสีมา ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้
ด้านนายสุรพงษ์ เปิดเผยว่า หลังจากเปิดรับสมัครเลือกตั้งนายก อบจ. และ ส.อบจ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 23-27 ธันวาคม 2567 มีผู้สมัครนายก อบจ.จำนวน 4 คน ประกอบด้วย เบอร์ 1 นายทักษิณ เขื่อนโคกสูง, เบอร์ 2 นางยลดา หวังศุภกิจโกศล, เบอร์ 3 นายมารุต ชุ่มขุนทด และเบอร์ 4 ร.ต.อ.นิติรักษ์ ฟักกระโทก ในส่วนผู้สมัคร ส.อบจ.นครราชสีมา ทั้ง 48 เขต จาก 32 อำเภอ มีผู้สมัครจำนวนทั้งสิ้น 153 คน โดย กกต.ประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ตรวจสอบคุณสมบัติเสร็จสิ้นไปแล้ววันสุดท้ายเมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา ผลการตรวจสอบคุณสมบัติปรากฏว่าผู้สมัครนายก อบจ.ทั้ง 4 คน มีคุณสมบัติครบทุกคน
ขณะที่ผู้สมัคร ส.อบจ.จำนวน 153 คน พบว่า ขาดคุณสมบัติไป 3 คน ประกอบไปด้วย ผู้สมัคร ส.อบจ.เขต 2 อ.สีคิ้ว, เขต 1 อ.จักราช และ เขต 1 อ.ชุมพวง ซึ่งผู้สมัครทั้ง 3 รายนี้ ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อมเทศบาล จึงทำให้ขาดสิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.อบจ.ในครั้งนี้
สำหรับ การร้องเรียนขณะนี้มีมาอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องผู้สมัครร้องเรียนพฤติกรรมของผู้สมัครด้วยกันเอง ที่อาจเป็นการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ขณะเดียวกัน เรื่องการป้องกันเหตุความรุนแรงในพื้นที่ ขณะนี้ กกต.จังหวัดนครราชสีมา ได้ตั้งชุดสืบสวนข่าว 3 ชุด และชุดเคลื่อนที่เร็ว 6 ชุด ทำงานร่วมกับผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครราชสีมา 8 คน เพื่อหาข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มที่อาจจะก่อเหตุความรุนแรง หากมีเบาะแสก็พร้อมประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุก สภ.เข้าไประงับเหตุได้ทันที ซึ่งได้มีการลงพื้นที่ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา