เร่งหาสาเหตุไฟไหม้เรือยอร์ชsหรูบริเวณเกาะโหลนอ่าวฉลองภูเก็ต

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 (ศรชล.ภาค3)  ได้รับแจ้งจาก  ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดภูเก็ต (ศคท.จว.ภูเก็ต)  ว่า มีเรือยอร์ชที่จอดอยู่บริเวณเกาะโหลน อ่าวฉลอง เป็นเรือที่ไม่มีคนเฝ้าเกิดควันไฟออกมาจากตัวเรือ ศปก.ศรชล.ภาค 3ช จึงได้สั่งการให้ หมวดเรือ (มว.เรือฯ) จัดเรือออกสนับสนุนให้การช่วยเหลือ ทั้ง เรือ ต.272  เรือ ต.111  อีกทั้งประสานกับ มูลนิธิศูนย์ไข่มุก จัดเรือสปีดโบ๊ท ร่วมกันนำอุปกรณ์ดับเพลิงและเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ ให้การช่วยเหลือในการดับเพลิง ติดต่อกับทาง agency ของเรือลำดังกล่าว เพื่อแจ้งให้ทราบว่ามีเหตุไฟไหม้ และเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องฉีดน้ำเข้าไปในตัวเรือเพื่อควบคุมเพลิง

ด้าน นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต เปิดเผยว่า เวลา 15.30 น. ได้รับแจ้งจากประชาชนผู้ใช้เรือบริเวณท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง พบกลุ่มควันลอยออกมาจากบริเวณท้ายเรือ ซึ่งผูกทุ่น บริเวณหน้าเกาะโหลน ห่างจากเกาะ เป็นระยะทาง 0.8 ไมล์ ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ตำบลราไวย์  อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

จากการตรวจสอบข้อมูลเรือทราบว่าเรือชื่อ “ออฟเซสซั่น 2” หมายเลขทะเบียน 655100194 ขนาด 155.00 ตันกรอส ประเภทการใช้ บรรทุกคนโดยสาร เจ้าของเรือชื่อ บริษัท เสลาลัย จำกัด ใบอนุญาตใช้เรือ ใช้ได้ถึงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 จึงได้ประสานขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ศูนย์ไข่มุก อบจ.ภูเก็ต ศรชล.3 เครื่อข่ายภาคเอกชน และสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต เพื่อร่วมกันเข้าระงับเหตุ แต่เนื่องจากเพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว

เบื้องต้นได้ประสานเจ้าของเรือทราบว่า เรือลำดังกล่าวมีการใช้งานตามปกติ แต่ในระหว่างเกิดเหตุเรือได้ผูกทุ่นอยู่ในจุดที่ไฟไหม้ ซึ่งในขณะนั้นคนประจำเรือขึ้นฝั่ง ไม่มีบุคคลอยู่ภายในเรือ ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ทั้งนี้ ขณะเกิดเหตุ  ผู้ดูแลเรือ  ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ได้ขึ้นฝั่งเพื่อไปจัดหาเสบียง ในระหว่างนั้นได้รับแจ้งว่า เมีกลุ่มควันขึ้นภายในเรือ จึงได้รีบกลับไปยังเรือเพื่อพยายามเข้าระงับเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่บางส่วน โดยการใช้อุปกรณ์ดับเพลิงประจำเรือและได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์ดับเพลิงจากเรือข้างเคียง แต่ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ เนื่องจากเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามตำรวจได้นัดหมายผู้ดูแลเรือเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม พร้อมสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ต่อไป

ข่าว/ภาพ : อชัถยา ชื่นนิรันดร์ ผู้สื่อข่าวจังหวัดภูเก็ต



Message us