
กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.), สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.), สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.), และกรมธนารักษ์ ลงนามโครงการความร่วมมือในการผลิตและพัฒนากำลังคนคุณภาพสูงด้านเทคนิควิศวกรรมสำรวจ เพื่อรองรับความต้องการบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ และเพิ่มโอกาสให้เยาวชนมีเส้นทางสู่อาชีพที่มั่นคง
นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เปิดเผยว่า ปัจจุบันหน่วยงานภาครัฐมีความต้องการบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านการรังวัดที่ดินและการสำรวจอย่างมาก โดยเฉพาะกรมที่ดิน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการจัดทำข้อมูลแผนที่ที่ดินทั่วประเทศ จึงได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)เป็นการเตรียมความพร้อมบุคลากรให้สามารถเข้าสู่ระบบราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ กรมที่ดินมีภารกิจสำคัญในการดูแลเรื่องการรังวัดที่ดิน การจัดทำเอกสารสิทธิ์ที่ดิน และการพัฒนาระบบข้อมูลที่ดินให้ทันสมัย จำเป็นต้องใช้บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ภายในปี 2570-2572 หน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการจะเปิดรับบรรจุนักศึกษาจากโครงการรวม 225 อัตรา เพื่อป้อนกำลังคนเข้าสู่ภาครัฐโดยตรงโดย กรมที่ดินจะเป็นหนึ่งในหน่วยงานหลักที่รับบุคลากรจากโครงการนี้ โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษา ได้รับการยกเว้นสอบภาค ก. ของ ก.พ. หากผ่านเกณฑ์ที่กำหนด และมีโอกาสเข้าทำงานราชการตามเงื่อนไขของหน่วยงาน
สำหรับ หลักสูตรดังกล่าวได้เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 1 – 31 มีนาคม 2568 ผ่านทางเว็บไซต์ sv.ovec.go.th และที่วิทยาลัยเทคนิค 8 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ 1. วิทยาลัยเทคนิคดุสิต 2. วิทยาลัยเทคนิคนครสวรรค์ 3. วิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลก 4. วิทยาลัยเทคนิคแพร่ 5. วิทยาลัยเทคนิคสกลนคร 6. วิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น 7. วิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์ 8. วิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ โครงการนี้มีการพัฒนาหลักสูตรเทคนิควิศวกรรมสำรวจ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) โดยเพิ่มรายวิชาใหม่ “การรังวัดที่ดิน”ให้ทันสมัย รองรับเทคโนโลยีสำรวจยุคดิจิทัล และออกแบบการเรียนรู้แบบทวิภาคี (เรียน 1 ปี ฝึกงานในหน่วยงานรัฐ 1 ปี)
อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวว่า การร่วมมือกับ สอศ. ครั้งนี้ จะช่วยให้กรมที่ดินมีบุคลากรที่มีความรู้และทักษะตรงกับงาน สามารถปฏิบัติงานได้ทันทีหลังจบการศึกษา ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งต่อหน่วยงานและประชาชนความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยพัฒนากำลังคนด้านสำรวจ รองรับความต้องการของประเทศ และเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างบุคลากรภาครัฐให้แข็งแกร่งต่อไป
