เร่งช่วยครอบครัวสุดรันทดอาศัยเพิงพักริมถนนใช้ชีวิตอย่างแร้นแค้น

นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” พร้อมเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมจังหวัดสมุทรปราการ เดินทางลงพื้นที่บริเวณริมถนนสุขุมวิท ต.บางปู อ.เมืองสมุทรปราการ ภายหลังมีพลเมืองดี ได้ส่งข้อมูลขอความช่วยเหลือ ไปทางเพจของ “กัน จอมพลัง” ว่า พบครอบครัวยากไร้หลายชีวิต อาศัยอยู่ในเพิงพักริมคลอง เมื่อไปถึงพบครอบครัวตามข้อมูลที่ทางพลเมืองดีแจ้งมาเป็นผู้ใหญ่ 2 คน เด็ก 3 คน นั่งอยู่ในเพลิงพักที่สร้างด้วยไม้ หลังคาสังกะสี สภาพทรุดโทรม

“กัน จอมพลัง” จึงได้ “ได้เข้าไปพูดคุยกับ น.ส.ลลิตา อายุ 37 ปี ทราบว่าเป็นแม่ของเด็กให้ข้อมูลว่า แต่ก่อนอาศัยอยู่กับสามีจนมีลูกด้วยกัน 4 คน ลูกชายคนโต อายุ 19 ปี ขณะนี้ถูกจับคดียาเสพติด ลูกสาว 2 คน อายุ 11 และ 13 ปี และ ลูกชายอายุ 9 ขวบ และยังมีหลานอีก 3 คนที่ลูกทิ้งไว้ให้เลี้ยง ทั้งหมดไม่ได้เรียนหนังสือ ต่อมาสามีเสียชีวิตจึงได้ไปอยู่กับสามีใหม่ แต่ไม่นานก็เลิกกัน เนื่องจากสามีใหม่ติดคุกคดียาเพสติด ก่อนจะย้ายลูกและหลาน รวมทั้งแม่มาอาศัยอยู่เพิงพักริมถนน เนื่องจากไม่มีที่ให้ไปแล้ว

น.ส.ลลิตา บอกว่า แต่ละวันตนก็เก็บของเก่าเพื่อนำไปขายรายได้ 1-2 ร้อยบาท มาเป็นค่าอาหารประทังชีวิต และให้ลูกสาวอีก 2 คน ไปรับจ้างเก็บกุ้งย่านคลองด่าน ยอมรับว่า ค่าใช้จ่ายไม่พอ จึงไม่สามารถที่จะหาเงินมาส่งเสียให้ลูกเรียนหนังสือได้ หลังจากมีคนมาช่วยก็อยากให้ลูกมีอนาคต และสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่หากจะเอาเด็กทั้งหมดไปดูแล ตนเองก็อยากขอปรึกษากันลูกคนโต และ แม่ก่อน เนื่องจากที่ผ่านมาตนเองไม่เคยห่างกันกับลูกเลย

ด้าน นางวรรณา อายุ 60 ปี แม่ของน.ส.ลลิตา เล่าว่า ตนเองมาอยู่กับลูก และหลานมาหลายปีแล้ว รายได้ส่วนใหญ่มาจากเก็บของเก่า อยากให้หลานมีอนาคต แต่ก็ไม่มีเงินที่จะมาส่งเสีย ทุกวันนี้เงินจะหามาจ่ายค่าอาหารก็หายากอยู่แล้ว น้ำก็ต้องไปกรอกก็อกของชาวบ้านมากิน ไฟฟ้าก็ไม่มี ต้องตักน้ำคลองมาอาบ จนทำให้หลานเกิดผื่นคัน ที่ผ่านมาก็ไม่รู้จะไปขอความช่วยเหลือจากใคร เนื่องจากบัตรอะไรก็ไม่มี

ขณะด้าน นายสมาน ปิ่นอยู่ อายุ 60 ปี อดีตกำนัน ต.บางปู กล่าวว่า ครอบครัวนี้ พื้นเพเป็นคนคลองด่าน ก่อนจะมาขออาศัยอยู่บริเวณนี้ได้ประมาณ 7 ปี แต่ละวันเก็บของเก่าขาย เคยมีชาวบ้านแจ้งเจ้าหน้าที่มาดู แต่หลังจากเจ้าหน้ามาตรวจสอบ ทางผู้เป็นแม่ไม่ยินยอมให้ลูกไปอยู่ที่อื่น อ้างว่าลูกมีพ่อมีแม่ เมื่อเข้ามาช่วย ทางผู้เป็นแม่เด็กไม่ค่อยให้ความร่วมมือ เป็นห่วงแต่เด็ก เนื่องจากบ้านก็อยู่ติดน้ำเกิดไปเล่นน้ำจนเป็นอันตรายจะทำอย่างไร

กัน จอมพลัง บอกว่า หลังจากได้รับข้อมูลจากพลเมืองดี ที่เคยเอาอาหารไปให้ครอบครัวนี้ และเมื่อได้สอบถามข้อมูลเห็นสภาพความเป็นอยู่แล้ว คิดว่าเด็กๆ ไม่ควรจะมาอยู่ใสภาพแวดล้อมแบบนี้ เด็กไม่ได้เรียนหนังสือ ตนจึงติดต่อไปยัง พมจ.สมุทรปราการ  ตำรวจ สภ.บางปู ลงพื้นที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่เมื่อมาถึงพบว่าสภาพความเป็นอยู่อเนจอนาถมาก บ้านน้ำไฟไม่มี ต้องนอนอยู่ในเพิงสังกะสี น้ำก็ต้องใช้น้ำคลองที่อยู่ในกองขยะ ผู้ใหญ่อาบยังคัน และสัตว์มีพิษ แต่หลังจากได้คุยกับแม่ก็พยายามต่อรอง ขอปรึกษากับลูกๆก่อน ตนมองว่าเป็นการประวิงเวลารึเปล่า

กัน จอมพลัง บอกว่า ด้วยสภาพของแม่แล้วดูแลตัวเองยังไม่ได้ ยอมรับว่าเสพยาเสพติด จึงได้ถามว่า จะให้ลูกๆเดินตามทางของแม่หรือ โตมาต้องติดยา ไร้อนาคต ซึ่งเป็นคำพูดที่แรง แต่ก็เป็นเรื่องจริง แม่เองก็อยากให้ลูกเรียน แต่ด้วยสภาพแล้วต้องไปหาปลา เก็บขยะประทั้งชีวิต ได้บ้างไม่ได้บ้าง เรามองอนาคตของน้อง จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ พม.เข้ามารับตัวน้องไปดูแล เพื่อให้น้องไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น แต่หลังจากนี้น้องจะได้ไปเรียน หรือทำอะไรต่อไปนั้นจะติดตามอย่างใกล้ชิด

ด้าน นางสุฑารัตน์ ทองพินิจ นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ พมจ.สมุทรปราการ กล่าวว่า หลังจากลงพื้นที่ พม.ได้นำเด็กทั้ง 3 คน เข้ามาคุ้มครองสวัสดิภาพในเบื้องต้นก่อน เนื่องจากสภาพสิ่งแวดล้อมของเด็ก รวมถึงคุณภาพชีวิต ที่อยู่นั้น พบว่าไม่มีความเหมาะสม จากข้อมูลที่ได้ทราบว่าเอกสารของเด็กขณะนี้ก็ยังไม่แน่ใจว่ามีหรือไม่มี ต้องขอตรวจสอบก่อน ส่วนการจะคืนเด็กให้กลับมาให้ขอบครัวหรือไม่ทาง พม.จะได้มีการประเมินถึงความพร้อมที่จะรับเด็กกลับไป หลังจากได้มีการพูดคุยกับแม่แล้ว เบื้องต้นยินยอมให้ลูกไป และได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว จากนั้นจะได้นำเด็กไปพักอยู่ที่ศูนย์พักพิงต่อไป

ข่าว/ภาพ : สุทธิวิทย์ ชยุตม์วรกานต์ ผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรปราการ

Message us