เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่พรรคประชาชาติ พรรคร่วม 8 พรรคที่ทำเอ็มโอยูจะตั้งรัฐบาล ประกอบด้วย พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคไทยรวมพลัง พรรคเป็นธรรม และพรรคพลังสังคมใหม่ จัดประชุมหารือการจัดตั้งรัฐบาล โดยมี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเเดตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม
ทีั้งนี้ พรรคประชาชาติ ในฐานะเจ้าภาพ เจ้าของสถานที่ เตรียมห้องประชุมใหญ่ไว้ที่ชั้น 2 เพื่อหารือ วาระ1 คือ เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมรับทราบ วาระ 2 เรื่องพิจารณา ความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาล ,การจัดทำนโยบายบริหารประเทศ ,การมอบหมาย ภารกิจให้คณะทำงาน และวาระที่ 3 เรื่องอื่นๆ ที่หลายฝ่ายจับตามีมีการคุยเรื่องประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ยังไม่ลงตัว รวมถึงการจัดสรรโควตารัฐมนตรีอย่างไร
นอกจากนี้ พรรคประชาชาติ ยังเตรียมห้องรับรองที่ชั้น 3 ห้องทำงาน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ และ ห้องทำงาน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ไว้รับรอง เผื่อพรรคใดอยากหารือเป็นการส่วนตัว โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล กับ พรรคเพื่อไทย ที่จะเคลียร์ใจกันหรือไม่ เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในห้วงที่ผ่านมา ข่าวความขัดแย้ง ดีลลับ และตำแหน่ง ประธานสภาฯ โควตารัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม พรรคประชาชาติ ในฐานะเจ้าภาพจัดเต็มเมนูของว่างรับรองผู้ใหญ่ 8 พรรค อาทิ แซนด์วิชแฮมชีส ,Truffle Quiche, ขนมปังทูน่า ,ข้าวทอดไก่กระเทียม ส่วนขนม Red Velet Cake, บราวนี่อัลมอนด์,บลูเบอร์รี่ครัมเบิ้ล ,ผลไม้รวมและ Cookie Oatmeal
นอกจากนี้ ยังได้กางเต๊นท์ด้านหน้าพรรคเพื่อรองรับกองทัพสื่อมวลชนที่จะมาทำข่าวตั้งแต่ช่วงเที่ยงจนถึงเวลา 16.30 น. ในการแถลงข่าวนั้น อาทิ ข้าวหมกไก่ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ-ไก่,ข้าวมันไก่, อาหารญี่ปุ่นเซ็ต,ปาท่องโก๋ ชาชัก -กาแฟ
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ในฐานะพรรคเจ้าภาพ กล่าวถึงการประชุม 8 พรรคร่วมว่า จะคุยถึงการเปลี่ยนผ่านไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เพราะประชาชนกว่า 72% เลือกให้ 8 พรรคจัดตั้งรัฐบาล อีกทั้งการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้เราต้องเตรียมเรื่องนโยบายความคืบหน้าในวงประชุม และเป็นการให้เกียรติพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่จะมีวาระในเชิงลึก รวมทั้งรายละเอียดแก้ปัญหาให้กับประชาชน เพราะวาระ 23 ข้อเป็นหัวข้อสำคัญที่พรรคการเมืองได้หาเสียงไว้ รวมทั้งนโยบายต่างๆ ส่วนเรื่องอื่นอยู่ที่หัวหน้าพรรค ก.ก.จะนำเสนอเพราะเป็นประธานในที่ประชุม
พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า ส่วนปัญหาที่ต้องแก้เร่งด่วนคือความเหลื่อมล้ำ ความยากจน การเอารัดเอาเปรียบ และปัญหาภาคใต้ พรรคประชาชาติจะต้องแก้ปัญหาให้ได้ เพราะการบริหารประเทศของรัฐบาลที่ผ่านมามีความเหลื่อมล้ำมากที่สุดจากลัทธิรวมศูนย์ให้ข้าราชการเป็นใหญ่ การศึกษาเน้นชาตินิยม และการทุจริตคอร์รัปชั่นสัมปทานผูกขาดทางภาคพลังงาน ปัญหายาเสพติด
เมื่อถามว่าตำแหน่ง ประธานสภา จะเป็นวาระพิเศษในการพูดหรือไม่ พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า พรรค ก.ก.และพรรค พท.กำลังคุยกัน ยังคงมีเวลา ประธานสภาเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ต้องเป็นกลางในการปฏิบัติ มั่นใจว่าพรรค ก.ก.กับพรรค พท.คุยกันได้ ส่วนจะคุยในวงประชุมหรือไม่ ต้องถามหัวหน้าพรรคก้าวไกล
“พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยมีบุคลากรที่มีความสามารถ หลักเกณฑ์ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีอยู่สามหลักเกณฑ์ คือ ความรู้ ความสามารถ ความประพฤติ จริยธรรม ไม่เกี่ยวกับอายุมาก หรือน้อย” พ.ต.อ.ทวีกล่าว
เมื่อถามว่า หากมีอุบัติเหตุทางการเมือง พรรค พท.และพรรค ก.ก.ยังไม่สามารถตกลงตำแหน่งประธานสภาได้ ทำให้รัฐบาลปัจจุบันจะต้องอยู่ต่อ หรือรัฐบาลส้มหล่นจะทำอย่างไร พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า รัฐบาลต้องรับใช้ประชาชน และประชาชนกว่า 72% เลือกแปดพรรคการเมืองให้มาเป็นรัฐบาล ส่วนตัวมองว่าพรรคส้มจะเป็นนายกรัฐมนตรี
