เฟ้นหาสุดยอดผ้าสืบสานงานหัตถศิลป์-หัตถกรรมผ้าเมืองกาญจน์

เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ร.ท.ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดการประกวดสุดยอดผ้าจังหวัดกาญจนบุรี ประจำปี 2567 โดยมี รศ.ดร.พญ.เรวิกา ไชยโกมินทร์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดกาญจนบุรี นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นางรัชนี โพธิสัตยา พัฒนาการจังหวัดกาญจนบุรี นางสมมารถ คำถนอม วัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี และนายประยุทธ์ จันทร์เหม ผู้อำนวยการศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ กาญจนบุรี คณะกรรมการตัดสินประกวดสุดยอดผ้าจังหวัดกาญจนบุรี ข้าราชการ และ ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP กลุ่มทอผ้า ร่วมพิธี

ร.ท. ทศพล บอกว่า การจัดประกวดสุดยอดผ้าจังหวัดกาญจนบุรี มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมพัฒนาภูมิปัญญาผ้าไทย สืบสานพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และขับเคลื่อนโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา รวมทั้งเป็นการผลักดันมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย ตลอดจนเพื่อค้นหาสุดยอดผ้าจังหวัดให้ได้ผืนผ้าที่เป็นที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งผืนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศของจังหวัด จะนำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวายสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2567

การประกวดสุดยอดผ้าจังหวัดกาญจนบุรีในครั้งนี้ มีผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ประเภทผ้า ช่างทอผ้า ร่วมสมัครส่งผลงานประกวด จำนวน 17 ราย โดยมีผ้าที่ส่งประกวด จำนวน 23 ผืน แบ่งเป็น ประเภทผ้ามัดหมี่ 6 ผืน ผ้าขาวม้า 7 ผืน ผ้าบาติก 1 ผืน ผ้ากะเหรี่ยง 5 ผืน ผ้ามัดย้อม 1 ผืน ผ้าพิมพ์ลาย 1 ผืน และผ้าจก 2 ผืน โดยเงื่อนไขการส่งผ้าเข้าประกวดต้องเป็นผ้าพื้นถิ่นของจังหวัด และต้องเป็นผ้าทอมือ หรือทำจากมือ (Handmade) และควรเป็นสีธรรมชาติ อาจเป็นผืนผ้าที่ทอไว้เดิมแล้วหรือเป็นผ้าที่ทอขึ้นใหม่ก็ได้ สำหรับประเภทผ้าที่ส่งเข้าประกวด ต้องมีลวดลายมีความคมชัด ความสม่ำเสมอของสีและเนื้อผ้า และความเรียบร้อยของผืนผ้า

สำหรับ การจัดการประกวดสุดยอดผ้าจังหวัดกาญจนบุรี ประจำปี 2567 ในครั้งนี้ ถือเป็นงานหัตถศิลป์ หัตถกรรม ที่แสดงออกถึงความเป็นอัตลักษณ์ของจังหวัด เป็นสิ่งล้ำค่าของจังหวัดกาญจนบุรี ผ่านสิ่งที่จับต้องไม่ได้คือภูมิปัญญา แต่สิ่งที่จับต้องได้คือชิ้นงานที่เราสามารถแปลงเป็นรูปธรรมให้หลากหลายด้วยพระราชดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่พระองค์มีพระปณิธานมุ่งมั่นในการแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชดำริการส่งเสริมผ้าไทยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทั้งนี้ ผ้าไทยมีนัยยะสำคัญที่คนไทยรับสืบทอดความรู้จากบรรพบุรุษ และสามารถสร้างสรรค์ ต่อยอดทำขึ้นมาเองได้ เพื่อสร้างรายได้กลับสู่ชุมชน ด้วยการส่งเสริม และกระตุ้นผ้าไทยให้ทันสมัย เป็นที่นิยมของทุกเพศ ทุกวัย และทุกโอกาส ซึ่งนับตั้งแต่จังหวัดกาญจนบุรีได้ขับเคลื่อนโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ทำให้กลุ่มทอผ้าจังหวัดกาญจนบุรี มีรายได้จากการจำหน่ายผ้าไทยแล้วกว่า 800,000 บาท ต่อปี ซึ่งได้รณรงค์ในการใช้และสวมใส่ผ้าไทยสีธรรมชาติ กับแนวทางคนใส่สนุก คนให้สุขใจ สร้างรายได้ในชุมชนมาอย่างต่อเนื่องพร้อมทั้งส่งเสริมการจัดอบรมให้ความรู้กับผู้ผลิตและช่างทอผ้า ในการใช้สีธรรมชาติแสดงให้เห็นถึงความสำคัญและคุณค่าของการใช้สีธรรมชาติ

นอกจากนั้น รวมถึงนำวัสดุพื้นถิ่นในชุมชนมาใช้ในการทอ เพิ่มคุณค่า และมูลค่าผลิตภัณฑ์ผ้าไทยให้สามารถก้าวสู่ระดับสากล เพื่อวิถีชุมชนที่ยังยืน และขับเคลื่อนสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) สอดคล้องตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs) ด้านความเป็นอยู่ และการรักษาสิ่งแวดล้อม” ร้อยโท ทศพลฯ กล่าว

Message us