
นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าหลังการจัดตั้งรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเตรียม ผลักดันยุทธ์ศาสตร์ 3 ขาเพื่อลดรายจ่าย สร้างรายได้ และขยายโอกาส เพื่อเป้าหมายฟื้นรายได้ประชาชน หลังจากที่คนไทยทั้งประเทศ ประสบปัญหารายได้ มาตลอด 9 ปี
ทั้งนี้ การหามาตรการในการช่วยเหลือเกษตรกรมีทั้งการลดต้นทุน ราคาน้ำมัน ลดราคาปุ๋ย ซึ่งเป็นต้นทุนหลักที่เกษตรกรต้องแบกรับภาระหนักมาก ทั้งนี้ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นต้องมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะมีมาตรการอย่างไรจะเกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด ในส่วนของปุ๋ยเคมี จะประสาน ความร่วม มือกับสถาบันการศึกษาและหน่วยงานด้านการวิจัยในประเทศ ราคาถูกมาให้กับเกษตรกร รวมทั้งจับมือร่วมกับวิทยาลัยเกษตรในประเทศไทย พัฒนาปุ๋ยเพื่อทดแทนการนำเข้าปุ๋ยจากต่างประเทศลดภาระเกษตรกร ซึ่งรัฐบาลทำได้อย่างแน่นอน

นายสงคราม กล่าวด้วยว่า ในส่วนของสินค้าเกษตร พรรคเพื่อไทยจะทำงานร่วมกับเกษตรกรในการพัฒนาผลิตผลทางการเกษตรให้มีคุณภาพ เพื่อยกระดับราคาสินค้า รวมทั้งต้องเจรจากับผู้ค้าทั้งในและต่างประเทศในการหาตลาดรับซื้อเพื่อกระจายสินค้าเกษตรของไทยในตลาดโลก ทั้งนี้ภายหลังจาก วิกฤติโควิดที่ผ่านมาพบว่าสินค้าเกษตรเป็นที่ต้องการของตลาดในต่างประเทศ จึงเป็นโอกาสที่ดีที่สินค้าไทยจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มมาก เชื่อว่าจะส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
“นอกจากนี้ขยายโอกาสทางการตลาดมากขึ้น ผ่านโครงการ“หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์” หรือ OTOP (One Tambon One Product)” ที่เปิดโอกาสให้ชาวบ้านใน 7 พันตำบลทั่วประเทศไทย สามารถนำศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ในชุมชนให้มีคุณภาพสูง ทั้งนี้หากรัฐบาลให้การช่วยเหลือเรื่องตลาดสำหรับการวางขาย รวมถึงแนวคิดการสร้างมูลค่าเพิ่มจากแพ็กเกจ สามารถประสบความสำเร็จระดับประเทศ ยกระดับกลายเป็นกลายเป็น ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง(SMEs) หรือสินค้าส่งออก ทั้งนี้มั่นใจว่าสินค้าโอทอปไทยจะสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะสามารถสร้างรายได้ให้กับ พี่น้องประชาชน เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน” นายสงคราม กล่าว