
เมื่อวันที่ 25 เมษายน พรรคเพื่อไทยเปิดเวทีปราศรัย คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน เพื่อชาวภูเก็ต ณ อาคารยิมเนเซียม (สะพานหิน) อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต โดยมี ประชาชนเข้าร่วมรับฟังการปราศรัยเต็มพื้นที่ยิมเนเซียมเกือบ 3,000 คน โดยน.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แหลงใต้ทักทายชาวภูเก็ตฝากพี่น้องชาวใต้ไว้วางใจเลือกเพื่อไทยเป็นตัวแทนชาวใต้แก้ไขวิกฤติปากท้อง พัฒนาศักยภาพภูเก็ตใ่ห้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยทราบดีว่าจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เกินปัญหาใหญ่สำหรับการท่องเที่ยว รายได้ของพี่น้องประชาชนหดหาย และยังคงไม่สามารถฟื้นฟูได้อย่างเต็มรูปแบบ พรรคเพื่อไทยจึงเตรียมพร้อมพัฒนาการท่องเที่ยวให้เติบโตได้มากกว่า 4 เท่าภายใน 4 ปี คืนความมั่งคั่งให้ชาวภูเก็ต และฝากพี่น้องชาวภูเก็ตเป็นแรงสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ให้เอาชนะส.ว. ในสภา เพื่อจัดตั้งรัฐบาลจากพรรคเพื่อไทย ไม่ให้ซ้ำรอยเลือกตั้ง 2562 อย่าลืมเลือกพรรคเพื่อไทยเบอร์ 29 และเลือกส.ส.เขตจากพรรคเพื่อไทย ให้แลนด์สไลด์ทั้งภูเก็ต

ด้าน นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่ได้ลงพื้นที่ภาคใต้ รู้สึกปลื้มปิติมากที่พี่น้องประชาชนให้การต้อนรับอย่างเนืองแน่นเต็มพื้นที่โรงยิมแห่งนี้ ส่วนตัวแล้วผูกพันกับภูเก็ต ตั้งแต่สมัยที่ยังอยู่ในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และซึมซับถึงวัฒนธรรมชาวภูเก็ต
อย่างไรก็ตาม วันนี้พรรคเพื่อไทยมาเต็มทีม เพราะภาคใต้เป็นยุทธศาสตร์สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต ที่สร้างรายได้ให้ประเทศไทยนับแสนล้านบาทต่อปี ซึ่งทุกคนล้วนเป็นกลจักรสำคัญในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม จังหวัดภูเก็ตยังสามารถเติบโตได้อีกมาก ทั้งในแง่การท่องเที่ยว ที่ควรขยายสนามบิน ถนนหนทาง รองรับนักท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวอยากจะมาใช้ชีวิตที่ภูเก็ต รวมถึงการสร้างถนน การเจาะภูเขามาป่าตองเพื่อลดอุบัติเหตุ การสร้างรถไฟไฟฟ้านำความเจริญด้านคมนาคม เป็นเรื่องใหญ่ที่พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญถ้าหากเราได้เข้ามาเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ

“พรรคเพื่อไทยจะยกระดับภูเก็ตเป็นจุดมุ่งหมายระดับโลก เช่นเดียวกับเมืองโมนาโค เมืองมิโคนอส ประเทศกรีซ และหลายๆ เมืองที่เจริญแล้วในยุโรป พัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานให้พี่น้องได้อยู่สบาย ทำให้เมืองภูเก็ตเป็นเมืองที่พระอาทิตย์ไม่ตกดิน เปิดสถานที่ท่องเที่ยวได้ 24 ชั่วโมง พร้อมจัดสรรตำรวจดูแลความปลอดภัยเพิ่มอีกเท่าตัว” นายเศรษฐากล่าว
นายเศรษฐายังได้เน้นน้ำนโยบายของพรรคเพื่อไทย ทั้งการปรับค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน การจัดสำรวจครัวเรือนและเติมเงินให้ทุกครอบครัวถึง 20,000 บาททุกเดือน กระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาทสำหรับคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป พร้อมยกระดับการปราบปรามยาเสพติด จับกุมผู้ผลิตและผู้ค้า ทำให้กลไกการยึดทรัพย์ผู้กระทำผิดรวดเร็วฉับไวขึ้น ตัดต้นตอการผลิต ไม่ทำให้ลูกหลานต้องกลับไปเสพยาอีก

“วันนี้มาขอโอกาสให้กับผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดภูเก็ต พรรคเพื่อไทย ทั้ง 3 คน ผมเข้าใจดีว่าท่านอาจผูกพันกับบางพรรคการเมืองมายาวนาน แต่ครั้งนี้ขอให้เลือกผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดภูเก็ต พรรคเพื่อไทย ได้เข้าไปช่วยผลักดันให้ภูเก็ตไปถึงศักยภาพที่จังหวัดนี้สามารถไปได้ รัฐบาลเพื่อไทยจะถือธงนำประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง ขอโอกาสให้พรรคเพื่อไทยได้รับใช้คนภูเก็ต ติดอาวุธให้จังหวัดภูเก็ตเดินไปข้างหน้า นำความสุขมาให้พี่น้องชาวภูเก็ตทุกคน” นายเศรษฐากล่าว

