“เพื่อชาติ”ประกาศดันกม.ต้านรัฐประหารหนุนเสรีภาพการชุมนุม

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม นายรักษ์ชาติ วงศ์อธิชาติ รองเลขาธิการพรรคเพื่อชาติ ร่วมเวทีเสวนาในหัวข้อ “บทเรียนจากท้องถนน: พรรคการเมืองกับนโยบายด้านเสรีภาพการชุมนุม” ภายในงาน นิทรรศการ “วัตถุพยานแห่งการต่อต้าน | Evidences of Resistance” จัดโดย พิพิธภัณฑ์สามัญชน Museum of Popular History และ พิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โดยความร่วมมือกับโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) ที่พิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต

นายรักษ์ชาติ กล่าวว่า ตลอด 10 กว่าปีที่ตนร่วมต่อสู้บนท้องถนน เห็นการสูญเสียมากมาย เพื่อนหลายคนถูกจับ ถูกทำร้าย ถูกบังคับสูญหาย หนีออกนอกประเทศ และรวมถึงเสียชีวิต พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้ทำหน้าที่ในการบันทึกประวัติศาสตร์แห่งการต่อสู้เพื่อไม่ให้อุดมการณ์ของพวกเขาได้สูญหายไปตามกาลเวลา และเพื่อย้ำเตือนให้คนที่ยังอยู่ได้ตระหนักถึงความรุนแรงโดยรัฐที่กระทำต่อสามัญชนคนธรรมดาคนหนึ่ง

นายรักษ์ชาติ กล่าวถึงจุดยืนของพรรคเกี่ยวกับเสรีภาพการชุมนุม ว่า พรรคเพื่อชาติเชื่อในประชาธิปไตย และได้มีนโยบายหลักที่จะผลักดันคือกฎหมายต้านรัฐประหาร โดยให้เขียนบัญญัติเพิ่มในรัฐธรรมนูญว่าห้ามไม่ให้ศาล วินิจฉัยหรือพิพากษารับรองการรัฐประหาร หรือรับรองสถานะทางกฎหมายให้แก่คณะรัฐประหาร ให้ข้าราชการและเจ้าที่รัฐมีสิทธิไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะรัฐประหารที่ยึดอำนาจประเทศได้ และให้กฎหมายเหล่านี้เป็นจารีตประเพณี หากมีการรัฐประหารหลักการเหล่านี้ก็จะยังคงอยู่ นี่จะทำให้ประเทศหลุดพ้นจากวังวนของรัฐประหารซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ทั้งนี้ ในส่วนของนโยบายด้านเสรีภาพการชุมนุมขอพรรคขอเสนอ 1.เสรีภาพการชุมนุมต้องรวมถึงการชุมนุมออนไลน์ ไม่มีการแทรกแซง และไม่มีการใช้อำนาจปิดกั้นเว็บไซต์ ไม่มีการใช้สปายแวร์ หรือเรียกจับกุมผู้ที่ชักชวนทำการชุมนุมในโซเชี่ยลมีเดีย 2.ต้องมีการเปิดเผยข้อมูลหน่วยงานรับผิดชอบต่อการชุมนุม ว่าใช้หน่วยงานใด อาวุธแบบใด ขั้นตอนการอำนวยความสะดวกแบบไหน 3.หากมีการสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรง ต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนที่เป็นกลาง โดยมีภาคประชาชน (ผู้เสียหาย) เข้าร่วม เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดและลงโทษ รวมถึงเยียวยาผู้เสียหายจากการสลายการชุมนุมของรัฐ 

4.ผู้ชุมนุมต้องได้รับสิทธิในการประกันตัว และต้องถูกสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะได้รับการพิสูจน์เป็นอื่น และ 5.ต้องมีการคุ้มครองสื่อโดยไม่แบ่งแยกสื่ออิสระและสื่อที่มีสังกัด สื่ออิสระต้องสามารถลงทะเบียนสื่อในพื้นที่ชุมนุมได้ และเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำร้ายสื่อจะต้องมีโทษร้ายแรง

Message us