เมื่อวันที่ 15 เมษายน ดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผย ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 ระหว่าง 11 – 17 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา 4 วันคือ วันที่ 11 – 14 เมษายน 2566 มีประชาชนใช้บริการระบบรางรวม 3,889,390 คน-เที่ยว ต่ำกว่าประมาณการ 206,661 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 5.05 (ประมาณการ 4 วัน 4,096,051 คน-เที่ยว แบ่งเป็นรถไฟ 327,141 คน-เที่ยวและรถไฟฟ้า 3,768,910 คน-เที่ยว) ประกอบด้วย รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีผู้ใช้บริการรวม 283,842 คน-เที่ยว แบ่งเป็นผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 123,334 คน-เที่ยว และผู้โดยสารเชิงสังคม 160,508 คน-เที่ยว โดยมีผู้โดยสารขาออกสะสม 155,768 คน-เที่ยว และขาเข้า 128,074 คน-เที่ยว ซึ่งพบว่า สายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 92,500 คน-เที่ยว (ขาออก 48,304 คน-เที่ยว และขาเข้า 44,196 คน-เที่ยว)
รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือ 77,245 คน-เที่ยว (ขาออก 45,030 คน-เที่ยว และขาเข้า 32,215 คน-เที่ยว) สายเหนือ 54,976 คน-เที่ยว (ขาออก 31,325 คน-เที่ยว ขาเข้า 23,651 คน-เที่ยว) สายตะวันออก 36,517 คน-เที่ยว (ขาออก 19,522 คน-เที่ยว ขาเข้า 16,995 คน-เที่ยว) และสายมหาชัย/แม่กลอง 22,604 คน-เที่ยว (ขาออก 11,587 คน-เที่ยว ขาเข้า 11,017 คน-เที่ยว) และระบบรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (รวมรถไฟฟ้าชานเมือง(สายสีแดง)) สะสม 4 วัน มีผู้ใช้บริการแล้ว 3,605,548 คน-เที่ยว ประกอบด้วย Airport Rail Link 197,203 คน-เที่ยว สายสีแดง 61,896 คน-เที่ยว สายฉลองรัชธรรม(สีม่วง) 107,088 คน-เที่ยว สายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) 993,828 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าบีทีเอส (สีเขียวและสีทอง) 2,245,533 คน-เที่ยว
ทั้งนี้ พบว่า เมื่อวาน (วันที่ 14 เมษายน 2566) ซึ่งเป็นวัน 4 ของวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ 2566 มีประชาชนมาใช้บริการระบบราง รวมจำนวน 807,373 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้นจากวันที่ 13 เมษายน 2566 จำนวน 22,302 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.84 แต่น้อยกว่าประมาณการ 55,465 คน-เที่ยว (ประมาณการวันที่ 14 เมษายน 2566 จำนวน 862,838 คน-เที่ยว) หรือต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 6.43 แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 63,602 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและรถไฟชานเมือง(สายสีแดง) จำนวน 743,771 คน-เที่ยว โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. รถไฟระหว่างเมืองของ รฟท. ให้บริการรวม 217 ขบวน มีผู้ใช้บริการจำนวน 63,602 คน-เที่ยว ต่ำกว่าประมาณการ 7,888 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 11.03 (ประมาณการ 71,490 คน-เที่ยว) แบ่งเป็นผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 28,813 คน-เที่ยว และเชิงสังคม 34,789 คน-เที่ยว โดยมีผู้โดยสารขาออกจำนวน 31,529 คน-เที่ยว และผู้โดยสารขาเข้า 32,073 คน-เที่ยว โดยพบว่า สายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 22,837 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 11,423 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 11,414 คน-เที่ยว) รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้ใช้บริการ 16,602 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 7,781 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 8,821 คน-เที่ยว) สายเหนือ 11,231 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 5,631 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 5,600 คน-เที่ยว) สายตะวันออก 6,751 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 3,439 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 3,312 คน-เที่ยว) และสายแม่กลองและมหาชัย 6,181 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 3,255 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 2,926 คน-เที่ยว)
2. ระบบรถไฟฟ้า ให้บริการเดินรถไฟฟ้ารวม 2,104 เที่ยว มีผู้ใช้บริการรวมจำนวน 743,771 คน-เที่ยว ต่ำกว่าประมาณการ 47,577 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 6.01 (ประมาณการ 791,348 คน-เที่ยว) ประกอบด้วย รถไฟฟ้า Airport Rail Link ให้บริการ 174 เที่ยว จำนวน 41,981 คน-เที่ยว รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ให้บริการ 230 เที่ยว จำนวน 11,992 คน-เที่ยว (รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลต่อสายสีแดงฟรี 1 คน) รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) 216 เที่ยว จำนวน 15,997 คน-เที่ยว รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) 250 เที่ยว จำนวน 176,455 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าบีทีเอส (สีเขียวและสีทอง) ให้บริการรวม 1,234 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 497,346 คน- เที่ยว (สายสีเขียว 485,980 คน-เที่ยว และสายสีทอง 11,366 คน-เที่ยว)
สำหรับ ด้านความปลอดภัย ไม่มีเหตุระบบรถไฟฟ้าขัดข้อง แต่มีเหตุอันตรายต่อการเดินรถไฟรวมจำนวน 2 ครั้งซึ่งเป็นเหตุการณ์ความไม่สงบในบริเวณพื้นที่การรถไฟฯ โดยมีกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนและวัตถุระเบิดปองร้ายอาคารสถานีและฐานปฎิบัติการของเจ้าหน้าที่ในบริเวณพื้นที่การรถไฟฯ รวม 5 จุด ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ส่งผลกระทบต้องปิดทางรถไฟช่วงสถานียะลา-สถานีรามัน จ.ยะลา โดย รฟท.ดำเนินการขนถ่ายผู้โดยสารทางรถยนต์ในช่วงดังกล่าวแทน และเหตุการณ์ขบวนรถเร็วที่ 140 (อุบลราชธานี – กรุงเทพ) ชนกระบือจำนวน 6 ตัว ระหว่างสถานีห้วยราช – บุรีรัมย์ เสียเวลาจากเหตุนี้ 32 นาที
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางรางประสานผู้ให้บริการระบบราง พิจารณาดำเนินการตามมาตรการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยฯ รวมทั้ง ประสานฝ่ายความมั่นคงมาช่วยดูแลในพื้นที่ระบบรางมากขึ้น นอกจากนี้ ยังประสาน รฟท.เตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางกลับโดยเฉพาะวันที่ 16-17 เมษายน2566 คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการหนาแน่น
