
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นคพรนม ความคืบหน้าเกี่ยวกับแรงงานไทย ในอิสราเอล ยังคงทยอยเดินทางกลับบ้านเกิด หลังได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลไทย จากข้อมูลของแรงงานจังหวัดนครพนม พบว่า มีแรงงานชาว จ.นครพนม กลับบ้านเกิดปลอดภัยแล้วกว่า 50 ราย ยังมีญาติแจ้งยืนยันแรงงานสูญหาย อีก 5 ราย ส่วนที่เหลือยังรอการประสานงานช่วยเหลือ
ทั้งนี้ ข้อมูลแรงงานชาว จ.นคพรนม ไปทำงานที่อิสราเอล มีมากกว่า 2,100 คน คาดว่า อยู่ในพื้นที่ประมาณ 100 คน ล่าสุดภายหลังการกลับมาบ้านเกิดปลอดภัย ยังมีอีกหลายราย ยังคงต้องการกลับไปทำงานในอิสราเอล เนื่องจากค่าแรง สูงตกชั่วโมงละ 200 บาท รายได้เฉลี่ยเดือนละ 40,000 – 50,000 บาท

นายยงยุทธ พรมติ่ง อายุ 31 ปี หรือ ยุทธ นครพนม ชาวบ้านนาคอกควาย หมู่ 2 ต.ดงขวาง อ.เมือง จ.นครพนม เดินทางไปทำงานที่อิสราเอล เลี้ยงควายในฟาร์มเกษตร มีรายได้ ประมาณเดือน ละ 40,000 – 50,000 บาท เดินทางไปทำงานตั้งแต่ปี 2562 เหลือสัญญาจ้างอีก 1 ปี แต่ต้องกลับเพื่อเอาชีวิตรอด
นายยงยุทธ เปิดเผยว่า ตนเป็นหนึ่งในแรงงานไทยทำงานเลี้ยงควาย ในอิสราเอล เป็นฟาร์มขนาดใหญ่ เนื่องจากรายได้ในประเทศไทยไม่เพียงพอเลี้ยงครอบครัว จึงหวังไปทำงานเก็บเงินสร้างฐานะ เพราะค่าแรงในอิสราเอลสูง ได้เงินเดือน เดือนละ 40,000 – 50,000 บาท ไปทำงานตั้งแต่ปี 2562 เก็บเงินสร้างบ้านให้ครอบครัวได้ 1 หลัง เหลือสัญญาจ้างอีก 1 ปี จำเป็นต้องกลับไทย เพราะเกิดสงคราม หนีเอาชีวิตรอดในหลุมหลบภัย นานกว่า 10 วัน โชคดีรอดชีวิตกับเพื่อนคนงานในแคมป์เดียวกันอีก 10 คน

ทั้งนี้ ช่วงแรกเกิดการสู้รบ มีทั้งระเบิด มีทั้งกลุ่มฮามาส บุกเข้ามากราดยิง คนงานไทย รวมถึงประชาชนทั่วไป ในอิสราเอล เจอใครยิงหมด ยอมรับโหดเหี้ยมที่สุด ไม่เว้นคนแก่ เด็ก ถ้าหนีไม่ทันฆ่าทั้งหมด ยังเป็นภาพที่สลดติดตามาถึงวันนี้ ยอมรับว่ายังเสียดายอนาคต เสียดายค่าจ้างแรงงาน หากสงครามสงบอยากกลับไปทำงานอีก เพราะค่าแรงในอิสราเอลสูง จึงต้องยอมเสี่ยง และหาทางหนีความจน เพราะประเทศไทยค่าแรงงานต่ำ ทางออกต้องไปขายแรงงานต่างประเทศ สงสารแรงงานไทยบางคนถูกกราดยิงเสียชีวิต บางรายศพทิ้งปล่อยเน่า ไม่สามารถเข้าไปเก็บกู้ได้ จนกว่าสงครามสงบ เชื่อว่า มีแรงงานไทยหลายคน หนีเอาชีวิตไม่รอดถูกยิงตาย นอกจากนี้ยังมีแรงงานไทย ชาวต่างชาติถูกยิงแล้วเผา โหดเกินคน
ข่าว/ภาพ : พัฒนพงษ์ ศรีเพียชัย ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครพนม
