
จากกรณีมีบุคคลเป็นชายชาวตำบลลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี มีบัตรประจำตัวประชาชนคนเดียวมากถึง 7 ใบ แต่ละใบมีมีชื่อที่แตกต่างกัน ซึ่งบัตรประชาชนดังกล่าวถูกนำไปเผยแพร่ทางโลกโซเชียล เนื่องจากเกรงว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตในการเลือกตั้ง ส.ส.ที่กำลังจะมาถึงในเร็วๆ นี้ โดยกรมการปกครองจะมีหนังสือแจ้งจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นนายทะเบียนท้องที่ดำเนินการจัดทำหนังสือกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกาญจนบุรี เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ขณะที่ นายธนณัฏฐ์ ศรีสันต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ได้ออกมาชี้แจงว่า บัตรประชาชนทั้ง 7 ใบนั้น เป็นบัตรปลอม ที่มิจฉาชีพทำขึ้นมาเอง ซึ่งผู้เสียหายโดยตรงคือ นายภาคิน สุดประพันธ์ จะต้องเป็นผู้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน
ล่าสุกด นายภาคิน สุดประพันธ์ อายุ 33 ปี ผู้เสียหายที่ถูกมิจฉาชีพนำบัตรประจำตัวประชาชนไปแอบอ้างเพื่อหลอกลวงประชาชนตามที่เป็นข่าว ได้เดินทางไปที่ สภ.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อให้ข้อมูลข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ที่ได้นัดหมายกันเอาไว้ โดยมี พ.ต.ท.มณิภัทร์ เพ็งเกร็ด สว.(สอบสวน)สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเป็นร้อยเวรเจ้าของคดี ร่วมรับฟังการสอบปากคำด้วย

นายภาคิน ผู้เสียหายเปิดเผยว่า วันนี้เจ้าหน้าที่สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ประสานให้ตนมาพบที่ สภ.ลาดหญ้า เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับบัตรประจำตัวประชาชนของตนที่ถูกแอบอ้าง ส่วนเรื่องการปลอมแปลงบัตรประจำตัวประชาชนของตนนั้น ตนทราบมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว เพราะมีตำรวจจากหลายท้องที่โทรศัพท์มาสอบถามว่า ตนใช่คนตามชื่อบัตรประจำตัวประชาชนที่ถูกปลอมแปลงหรือไม่ ตนก็กล่าวปฏิเสธไป จากนั้นวันที่ 7 ก.ย.2565 ที่ผ่านมา ตนจึงได้มาลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐาน ที่ สภ.ลาดหญ้า แต่ตนไม่คิดมาก่อนว่าจะมีการกระทำผิดอีก และที่ผ่านมาตนได้รับหมายเรียกจาก สภ.ต่างๆ ทั่วประเทศมาแล้ว 9-12 หมาย บางหมายมาจากจังหวัดยะลา จังหวัดกระบี่ รวมทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น ซึ่งเป็นเพียงหมายเรียก แต่ผู้เสียหายหลายคนติดต่อมาหาตนโดยตรง และมาหาตนที่ร้านกาแฟ และบางรายที่มารอแจ้งกับตนว่ามารอรับซื้อรถจักรยานยนต์โดยพร้อมที่จะจ่ายเงินสดให้ จากนั้นก็โทรกลับไปหาคนขายซึ่งเขาก็รับสาย สุดท้ายก็โดนชิ่ง โชคดีที่พบกับตนก่อนจึงบอกไปว่าอย่าเพิ่งโอน และตนได้นำเอกสารการหลอกลวงให้เขาดู เขาจึงรู้ตัวว่าโดนหลอกเข้าแล้ว
สำหรับ เรื่องบัตรประจำตัวประชาชนที่พวกมิจฉาชีพได้ไปนั้นตนเชื่อว่าน่าจะเกิดจากการที่ตนเคยส่งเอกสารเข้าไปในแอพเงินกู้นอกระบบ ตนได้สมัครไปแล้วแต่ไม่ได้เงินกู้มา และต้องมาเสียข้อมูลในบัตรประจำตัวประชาชนให้กับพวกมิจฉาชีพ โดยเมื่อวันที่ 7 มีนาคมผ่านมา ตนพบเพจหลุดจำนำรถสวยสภาพดี นำภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนของตนไปตัดต่อด้วยการเปลี่ยนชื่อและเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ซึ่งไม่ใช่ของตน แต่ที่อยู่และรูปถ่ายในบัตรตรงกับของตน จากนั้นมิจฉาชีพได้นำภาพตัดต่อที่ทำเอาไว้แล้วนำไปหลอกประชาชนทำให้ตนได้รับความเสียหาย วันที่ 8 มีนาคมตนจึงมาลงบันทึกประจำวันพร้อมมอบเอกสารหลักฐานต่างให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อติดตามหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตาม อยากฝากเตือนไปยังประชาชนว่า ช่วงนี้พวกมิจฉาชีพหลอกลวงแบบนี้เกิดขึ้นมากในโลกโซเชียล จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังในเรื่องของบัตรประจำตัวประชาชน รวมทั้งเอกสารอื่นๆ ที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลก็เช่นกัน หรือว่าตามเพจซื้อขายสินค้า ก็ขอให้ตรวจสอบที่มาที่ไปให้ชัดเจนก่อน ไม่เช่นนั้นอาจจะโดนอย่างตนเองได้
ด้านเจ้าหน้าที่สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ที่ได้เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องการปลอมแปลงบัตรประจำตัวประชาชนทั้ง 7 ใบ เบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อมูลของกระทรวงมหาดไทย ยังไม่พบข้อมูลใดๆ ขณะนี้กำลังติดตามว่าบุคคลกลุ่มนี้เป็นใคร อยู่ที่ใด ต้องใช้เวลาตรวจสอบอีกระยะหนึ่ง พร้อมยืนยันว่าบัตรประจำตัวประชาชนที่ออกมาเช่นนี้ไม่ถูกต้อง ไม่ใช่เอกสารทางราชการ และการที่จะดูว่าบัตรฯ นั้นถูกต้องหรือไม่นั้น ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญในเรื่องนี้ตรวจสอบ จึงฝากเตือนประชาชนว่าขอให้รักษาบัตรประจำตัวประชาชนไว้ให้ดี และอย่าให้ใครเอาไปใช้เด็ดขาด เพราะอาจจะถูกนำไปแอบอ้างใช้ในทางที่ผิดกฎหมายได้