เมื่อวันที่ 9 ก.พ. นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า สิทธิประโยชน์ของแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันแล้วได้รับการปล่อยตัวกลับมาทั้ง 5 คน จะได้รับ ประกอบด้วย 1.เงินชดเชยจากสถาบันประกันภัยอิสราเอล ซึ่งทายาทขอรับสิทธิประโยชน์เรียบร้อยแล้ว 2. เงินชดเชยกรณีถูกเลิกจ้าง หรือเงินปิซูอิม ในส่วนนี้กระทรวงแรงงานได้ให้ฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประสานติดตามให้
3.หากเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ จะได้รับเงินสงเคราะห์กรณีเดินทางกลับประเทศจากภัยสงคราม จากกรมการจัดหางาน จำนวน 15,000 บาท 4.สิทธิประโยชน์ประกันสังคม จากการตรวจสอบพบว่า แรงงานไทยที่ได้รับการปล่อยตัวทั้ง 5 คนเคยเป็นผู้ประกันตนมาก่อนจึง มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ ดังนี้ นายวัชระ ศรีอ้วน ได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ 1,431.36 บาท นายพงษ์ศักดิ์ แทนนา ได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ 10,982.02 บาท นายเสถียร สุวรรณคำ ได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ 53,058.65 บาท นายสุระศักดิ์ ลำเนา ได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ 12,637.61 บาท และ นายบรรณวัชร แซ่ท้าว ได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ 7,829.28 บาท นอกจากนี้ จะได้รับเงินชดเชยรายเดือน เงินช่วยเหลือประจำปี เงินช่วยเหลือรายไตรมาส รวมถึงสิทธิอื่น ๆ
ทั้งนี้ ทางรัฐบาลอิสราเอลได้ดูแลเรื่องสิทธิประโยชน์ของแรงงานไทยจากสถาบันประกันภัยอิสราเอลที่แรงงานทั้ง 5 คนจะได้รับ โดยทางการอิสราเอลจะออกเอกสารรับรองตัวประกันที่ถูกปล่อยตัว และจะจ่ายเงินชดเชย ดังนี้ 1.บัตรเงินสด จำนวน 10,000 เชคเกล โอนเงินเข้าบัญชี 50,000 เชคเกล 2.เงินช่วยเหลือรายเดือน จนถึงอายุ 67 ปี จ่ายเงินชดเชยรายเดือน 3,300 เชคเกลต่อเดือน อายุ 67 – 80 ปี จ่ายเงินชดเชยรายปี 39,000 เชคเกล และการจ่ายเมื่ออายุ 80 ปีขึ้นไป จ่ายเงินชดเชยรายปี 49,000 เชคเกล โดยในเดือนแรกนี้แรงงานไทยทั้ง 5 คน จะได้รับเงินชดเชยประมาณคนละ 60,000 เชคเกล หรือประมาณ 600,000 บาท
นายบุญสงค์ กล่าวว่า ตนยังได้สั่งการให้หน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานในพื้นที่ภูมิลำเนาของแรงงานไทยที่ได้รับการปล่อยตัวทั้ง 5 คน ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบในอิสราเอล พร้อมแจ้งข้อมูลและประสานอำนวยความสะดวกในขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ โดยเร็วที่สุด ส่วนคนไทยอีก 1 ราย เบื้องต้นทราบว่าเป็นเพศชาย แต่ขออนุญาตไม่เปิดเผยชื่อ เนื่องจากกำลังเร่งติดตามหาตัว และภาวนาขอให้ยังมีชีวิตอยู่ ทั้งนี้ คาดว่าปัจจุบันมีแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในอิสราเอลจำนวนกว่า 30,000 คน คนไทยทั้ง 5 คนปลอดภัย และสุขภาพเเข็งแรงดี โดยเมื่อกลับมาถึงประเทศไทย หากอยากจะประกอบอาชีพอะไรในไทย ทางกระทรวงแรงงานจะจัดการฝึกอบรม และประสานกับทางกรมการจัดหางาน เพื่อจัดหาอาชีพที่เหมาะสมและตามความต้องการของแต่ละคนต่อไป ซึ่งคนไทยทั้ง 5 คนทำงานอยู่ในภาคเกษตรในประเทศ
