เปิดประวัติไม่ธรรมดา”พระมหาอภินัย ตนฺติวฑฺโฒ”พระสอบได้เปรียญธรรม (ป.ธ.) 9 ประโยค

จากการประกาศผลสอบบาลีสนามหลวงประจำปี 2568ในส่วนของพระภิกษุสามเณรที่สอบได้ประโยคเปรียญธรรม (ป.ธ.) 9 ประโยค จำนวน 72 รูปปรากฎว่า มีพระสงฆ์ 1 รูปที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก เพราะเคยเป็นถึงนายแพทย์มาก่อนที่จะเข้ามาบวช ทั้งยังสามารถสอบได้ ป.ธ.9 ด้วย โดยพระรูปดังกล่าวคือ พระมหาอภินัย ตนฺติวฑฺโฒ วัดพระธรรมกายนั่นเอง

ประวัติ พระมหาอภินัย ตนฺติวฑฺโฒ วัดพระธรรมกาย เกิดที่กรุงเทพฯ นามเดิม นพ.อภินัย ชินพิพัฒน์ เกิดเมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2524 สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น จากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย รุ่นที่ 146 สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา รุ่นที่ 59 ก่อนสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ รุ่นที่ 55

จากนั้น ได้มีโอกาสทำกิจกรรมต่างๆ ของคณะแพทย์ จุฬาฯ เช่น เป็นเชียร์ลีดเดอร์ของคณะในงานกีฬาเฟรชชี่คณะแพทย์ทั่วประเทศ และมีโอกาสได้ไปร่วมกิจกรรมของชมรมพุทธศาสตร์ จุฬาฯ ในช่วงปิดภาคการศึกษาปีที่ 1 ได้ไปร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทธรรมทายาท ทำให้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้น เมื่อจบโครงการอบรมได้มาเป็นประธานชมรมพุทธศาสตร์และประเพณี จุฬาฯ

เมื่อสำเร็จการศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เข้ารับราชการเป็นแพทย์ใช้ทุนอยู่ รพ.หนองเสือ, รพ.ปทุมธานี และสถาบันธัญญารักษ์ (ปัจจุบันคือสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี) อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เมื่อใช้ทุนรัฐบาลครบกำหนด 3 ปีแล้ว ได้อุปสมบทขณะอายุได้ 28 ปี เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2552 ณ วัดปทุมคงคา โดยมี พระเทพรัตนสุทธี (ปัจจุบันคือ พระพรหมเสนาบดี) เป็นพระอุปัชฌาย์ และมาจำพรรษา ณ วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี

พระมหาอภินัย จำพระปาฏิโมกข์ได้ ขณะที่เป็นพระนวกะพรรษาที่ 1 มีหน้าที่ช่วยอบรมเป็นพระพี่เลี้ยงให้กับพระภิกษุบวชใหม่ในโครงการบรรพชาอุปสมบทธรรมทายาท รวมถึงสอนธรรมทั้งภาคปริยัติและปฏิบัติให้กับฆราวาสที่สนใจศึกษา ส่วนเรื่องการศึกษาพระปริยัติธรรม สอบได้นักธรรม ชั้นเอก เมื่อ พ.ศ.2553 ด้านแผนกบาลี สอบได้ประโยค 1-2 เมื่อ พ.ศ.2556 และสอบผ่านในระดับต่างๆ เรื่อยมาจนสำเร็จป.ธ.9 เมื่อ พ.ศ.2568

นอกจากนี้ ยังสอบได้ทุนรัฐบาลไต้หวันในปี พ.ศ.2559 จึงได้มีโอกาสไปศึกษา ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติเจิ้งจื้อ (National Chengchi University ) และเป็นพระอาจารย์ประจำ ณ วัดพระธรรมกายไทเป ไต้หวัน ระหว่างปี พ.ศ.2557 ถึง 2563 ทำกิจกรรมสงฆ์ร่วมกับวัดฝ่ายมหานิกาย เช่น วัดฝอกวงซัน (Fo Guang Shan), วัดฝากู่ซัน (Dharma Drum Mountain) เป็นต้น เมื่อหมดวาระหน้าที่แล้วจึงกลับมาจำพรรษา ณ วัดพระธรรมกายจนถึงปัจจุบัน

Message us