เปิดประชุมสว.นัดแรก 23 ก.ค.เลือกประธานวุฒิฯ-รองประธานวุฒิฯ

เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ที่รัฐสภา น.ส.นภาภรณ์ ใจสัจจะ เลขาธิการวุฒิสภา แถลงถึงภาพรวมการเปิดรับแสดงตนสมาชิกวุฒิสภา (สว.)ชุดใหม่ 200 คน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 11-12 ก.ค. และวันที่ 15 ก.ค. ว่า ขณะนี้มีสว.มาแสดงตนจำนวน 198 ราย อีก 2 รายคาดว่าจะเดินทางมาแสดงตนในช่วงบ่าย ส่วนการนัดประชุมวุฒิสภานัดแรก ตามข้อบังคับการประชุมวุฒิสภาปี 2562 ข้อ 15. กำหนดว่า ต้องนัดประชุมล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 2 วัน จากความพร้อมล่าสุด จะกำหนดในวันที่ 23 ก.ค. ตรงกับวันอังคารที่มีการประชุมวุฒิสภาตามปกติ ขณะที่วาระการประชุมนัดแรก มี 3 วาระคือ 1.เรื่องที่ประธานแจ้งต่อที่ประชุม เพื่อรับทราบผลการดำเนินการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ต่อการเลือกสว.ชุดใหม่ รวมถึงบัญชีสำรอง 2.การปฏิญาณตนของสว.ก่อนเข้ารับหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ และ 3.วาระการเลือกประธาน และรองประธานวุฒิสภา

สำหรับ การประชุมวุฒิสภานัดแรก ตามข้อบังคับฯ ปี 62 ข้อ 5. กำหนดให้เชิญผู้อาวุโสสูงสุดทำหน้าที่เป็นประธานวุฒิสภาชั่วคราว มีรายชื่อตามลำดับดังนี้ 1.พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี สว. อายุ 78 ปี 2.นายแล ดิลกวิทยรัตน์ สว. อายุ 77 ปี และ 3.นายบุญส่ง น้อยโสภณ สว. อายุ 75 ปี หากบุคคลตามลำดับไม่พร้อมทำหน้าที่ ก็จะเลื่อนเป็นลำดับถัดไปตามอายุอาวุโส ต่อจากนั้นเมื่อได้ลงมติเลือกประธานวุฒิฯ และรองประธานวุฒิฯ แล้วเสร็จ ก็จะยืนยันมติ และส่งเรื่องไปยังนายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งต่อไป

เลขาธิการวุฒิสภา กล่าวว่า ส่วนการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 2 จะเกิดขึ้น ภายหลังจากมีการโปรดเกล้าฯ ประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิฯ ซึ่งระยะเวลาเร็วที่สุดเมื่อเทียบกับระยะเวลาที่ผ่านมาประมาณ 7 วัน คาดว่าจะเป็นวันที่ 30 ก.ค.นี้ อย่างไรก็ตามกระบวนการลงมติเลือกประธานวุฒิฯและรองประธานวุฒิฯ เป็นเรื่องในรายละเอียด ยังไม่สามารถเปิดเผยได้

เมื่อถามว่า ก่อนการเลือกประธานวุฒิฯและรองประธานวุฒิฯ มีสว.อยากให้นัดสัมมนาทำความรู้จักกันก่อน เลขาธิการวุฒิสภา กล่าวว่า ตามปกติสำนักงานจะจัดสัมนาหลังจากที่สว.ได้เข้าทำหน้าที่แล้ว ส่วนการนัดพบปะกันก่อนการโหวตเลือกนั้นขึ้นอยู่กับสมาชิกที่จะดำเนินการ

เมื่อถามถึง การตรวจสอบประเด็นวุฒิการศึกษาของ สว.ที่มองว่าอาจไม่ใช่ของจริง เลขาธิการวุฒิสภา กล่าวว่า สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจะต้องดำเนินการทุกอย่างตามอำนาจหน้าที่ จึงได้มีการมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายสำนักงานฯ ไปวิเคราะห์ความเห็นว่าจำเป็นจะต้องดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร

Message us