ที่ เดอะ ซีซันส์ ถนน พหลโยธิน นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทย ร่วมเสวนาในงาน “ร่วมค้นหาทางรอด ช่วยคนไทยพ้นวิกฤตนี้” โดย นายสุพันธุ์ อธิบายว่า ปัจจุบันวิกฤตใหญ่ทางเศรษฐกิจสำหรับคนไทยคือปัญหาหนี้สิน ทั้งในระบบแและนอกระบบ ถือว่าเป็นสัญญาณอันตรายของเศรษฐกิจในช่วงนี้จึงต้องมีการแก้หนี้ โดยจะต้องเริ่มจากการแก้หนี้ในระบบ ผ่านนโยบายกองทุนฟื้นฟูหนี้เสียเครดิตบูโร โดยช่วยจ่ายดอกเบี้ยให้หลุดจากเครดิตบูโรเพื่อให้สามารถนำหนี้มาแลกเปลี่ยน ซื้อขาย รีไฟแนนซ์หรือเกิดการกู้ใหม่ได้
ทั้งนี้ ในส่วนของหนี้นอกระบบพรรคไทยสร้างไทยจะใช้นโยบายกองทุนเครดิตประชาชนโดยเปิดให้ประชาชนกู้ ตั้งแต่ 5,000 ถึง 50,000 บาท เพื่อนำเงินไปชำระหนี้นอกระบบ และนำมาหมุนเวียน เป็นเงินสำรองใช้จ่ายในแต่ละวัน ไม่ต้องพึ่งพาหนี้นอกระบบ ให้ดอกเบี้ยที่ต่ำและสามารถผ่อนชำระได้เป็นรายวันหรือรายสัปดาห์เมื่อชำระครบชำระตรงจะได้เพดานกู้เพิ่ม โดยไม่ต้องค้ำประกันประการต่อมาปัญหาที่สำคัญคือเรื่องของกฎระเบียบต่างๆ ที่นายสุพันธุ์ระบุว่าปัจจุบันมีกฎหมายกว่า 1,400 ฉบับที่เป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากินของพี่น้องประชาชน โดยพรรคไทยสร้างไทยจะทำการแขวนกฎหมายเหล่านี้ไว้โดยการออก พ.ร.ก. หนึ่งฉบับ เพื่อพักใช้กฎหมายเหล่านี้ไว้ก่อนและเปิดโอกาสให้คนได้กลับมาทำมาหากินได้
สำหรับ ปัญหาด้านการเกษตร นายสุพันธุ์มองว่า ตอนนี้หลายคนหลายพรรคกำลังตั้งโจทย์ผิด หลายคนมองว่าเกษตรต้องราคาดี แต่สำหรับตนมองว่าเกษตรต้องกำไรดี เพราะหากมองแต่เพียงราคาดีโดยไม่มองต้นทุน จะยิ่งทำให้มีปัญหาเงินเฟ้อตามมา แต่ตนและพรรคไทยสร้างไทยมองว่าต้องลดต้นทุนทางการเกษตรลงมา โดยเริ่มจากการแก้ไขระบบชลประทาน การควบคุมราคาปุ๋ย และ ต้นทุนอื่นๆ ต้องมีการทำให้ต่ำลง
นายสุพันธุ์ มองว่า ปัจจุบันประเทศไทยกำลังพึ่งพาการลงทุนจากต่างชาติมากเกินไปและกำลังมองข้ามการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยโดยเฉพาะในภาคส่วนของ SMEs โดยเสนอว่า SMEs ไทยจพต้องมีแต้มต่อใน BOI ในการลงทุน และ BOI เองจะต้องปรับบทบาทให้เหมือนกับ องค์การส่งเสริมการลงทุนต่างประเทศของญี่ปุ่น ที่ช่วยเหลือบริษัทของคนไทยในการไปลงทุนที่ต่างประเทศ เช่นศึกษากฎหมาย กฎระเบียบต่างๆ รวมถึงระบบเศรษฐกิจและสถาบันการเงินของประเทศที่ SMEs ไทยจะเลือกไปลงทุน นอกจากนั้นต้องเสริมศักยภาพให้กับ SMEs ไทยโดยมีการตั้งคลัสเตอร SMEs ในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์และศูนย์ในการจดทะเบียนขึ้นทะเบียนต่างๆไว้ให้ในต่ละพื้นที่เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยใช้งานได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีนโยบายที่ต่อเนื่องกันตั้งแต่วัยเด็ก วัยทำงาน จนถึงผู้สูงอายุ เริมจากสนับสนุนให้มีการเรียนฟรีพร้อมกับลดเวลาเรียนลงอีก 3 ปี โดยลดประถมลง 1 ปี มัธยม 1 ปี และ มหาวิทยาลัย 1 ปี เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนจบได้เร็วขึ้น และเข้าสู่ตลาดแรงานได้ไวขึ้น เมื่อเข้ามาทำงานแล้วมีรายได้ก็จะมีการงดเก็บภาษีสำหรับผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 300,000 บาทต่อปี มีนโยบายหวยบำเหน็จที่เป็นการสนับสนุนให้คนเก็บออมเงิน และเมื่อสูงอายุก็จะมีนโยบายบำนาญประชาชน 3,000 บาทตามามาเพื่อเป็นการดูแลตั้งแต่เกิดจนแก่
นายสุพันธุ์ มองว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงด้านอาหารระดับโลก แต่การส่งเสริมยังน้อยมาก ผู้ประกอบธุรกิจอาหารต้องสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง แต่รัฐกลับยังไม่ดูแลดีพอโดยต้องมีการนำอาหารมาผูกการท่องเที่ยว ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไม่เพียงแต่มาเที่ยวแต่ยังมากิน ต้องมีแนวคิดที่คล้ายกับมิชลินไกด์เพื่อส่งเสริมซอฟท์พาวเวอร์ออกไป รวมทั้งอุตสาหกรรมหนึ่งของทยี่มักถูกมองข้ามคืออุตสาหกรรมโฆษณาเพราะหลายที่ในโลกชื่นชมโฆษณาไทย และ วงการนี้เติบโตมาตลอด แต่ยังถูกมองข้ามโดยรัฐอยู่รวมถึงวงการภาพยนต์ไทยที่ไม่ถูกสนับสนุน รวมถึงพระเครื่อง เศรษฐกิจสายมูต่างๆ ที่ไม่ถูกพูดถึงสิ่งเหล่านี้สามารถนำมาส่งเสริมและสนับสนุนอย่างจริงจัง
อย่างไรก็ตาม พรรคไทยสร้างไทยเป็นพรรคใหม่แต่บุคลากรของพรรคเป็นคนที่มีประสบการณ์มามากทั้งทางการเมืองและทางธุรกิจ ตนเชื่อว่าพรรคไทยสร้างไทยจะเป็นทั้งทางเลือกและทางรอดให้กับประเทศไทยต่อไปได้
