
เมื่อวันที่ 30 กันยายน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมาที่สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เข้ายื่นหนังสือขอใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 41 (2) เสนอเรื่องราวร้องทุกข์ต่อหน่วยงานของรัฐ และขอปฎิบัติหน้าที่ปวงชนชาวไทยตามมาตรา 50 (10) ขอใช้สิทธิ์ตามพ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการพ.ศ. 2540 เพื่อขอข้อมูลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ขาดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเดินทางออกนอกประเทศ ว่า เดินทางไปต่างประเทศในช่วงเดือนมี.ค. 67 รวม 3 วัน เดือนมิ.ย. 67 จำนวน 3 วัน เดือนก.ค.และเดือนส.ค.อีกเดือนละ 2 วัน รวมทั้งหมด 8 วัน โดยขอทราบว่า มีการเดินทางไปจริงหรือไม่ และหากเดินทางไปต่างประเทศจริงเดินทางอย่างไร สายการบินอะไร ค่าใช้จ่ายเป็นไปตามระเบียบของทางราชการหรือไม่
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบวันลา มา ขาด ของพล.อ.ประวิตร ซึ่งได้ข้อมูลมาจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.66 จนถึงปัจจุบัน พบว่าพล.อ.ประวิตรลาประชุมโดยอ้างว่าลาป่วยและติดภารกิจถึง 84 ครั้ง จากวันประชุมทั้งหมด 95 ครั้ง และในวันประชุมสภาฯ ล่าสุดก็ยังไม่พบว่าพล.อ.ประวิตรเข้ามาทำหน้าที่ส.ส.เข้าร่วมประชุมสภาฯแต่อย่างใด ซึ่งพฤติกรรมของพล.อ.ประวิตรส่อให้เห็นว่า น่าจะไม่สนใจกระแสสังคมและเหมือนน่าจะท้าทายประชาชนเจ้าของเงินภาษี จึงจำเป็นต้องตรวจสอบต่อ
“ผมได้ข้อมูลจากผู้ร้องซึ่งเป็นพลเมืองดีว่า การเดินทางน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย ของป.ป.ช. ก็เลยต้องมาตรวจสอบว่าเดินทางอย่างไร มีใครน่าจะร่วมสนับสนุนให้กระทำความผิดหรือไม่หรือตัวการร่วม แล้วจากข้อมูลที่ผู้ร้องมาว่าการเดินทางไปต่างประเทศของพล.อ.ประวิตรมีการลาประชุมสภาฯ น่าจะเป็นกิจกรรมและพฤติกรรมที่ไม่ใช่เพื่อประโยชน์สาธารณะและผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน แต่เป็นผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่า ผมขอยืนยันว่า เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องการเมือง ไม่ใช่การดิสเครดิต หรือหวังผลทางการเมืองเหมือนที่ฝ่ายพล.อ.ประวิตรออกมากล่าวหา แต่เป็นการตรวจสอบเพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน จนกว่าพล.อ.ประวิตร จะแสดงความรับผิดชอบโดยเข้าประชุมสภา หรือลาออกจากส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่เช่นนั้นผมจะเดินหน้าตรวจสอบต่อไป ” นายพร้อมพงศ์