
จากกรณีที่สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มขณะนี้ ได้มีการปรับลดราคาลงอย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากเทศกาลตรุษจีนเป็นต้นมา ราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มได้ปรับลดลงจากเดิมกิโลกรัมละ 104 บาท ลดลงเหลือกิโลกรัมละ 60-80 บาท มีลักษณะไม่สอดคล้องกับตลาดหมูที่เป็นจริง เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบเลี้ยงหมู อาทิ อาหาร และยา มีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นโดยตลอด ส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจแผงขายหมูในตลาดสดแม่กิมเฮง อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยพบว่าทุกแผงบรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา ประชาชนมาเดินเลือกซื้อหมูสดค่อนข้างน้อย ทำให้แผงหมูต่างๆ ต้องลดปริมาณการสั่งเนื้อหมูมาขายลงจากช่วงเดือนที่ผ่านมา 15% ส่วนราคาขายปลีกเนื้อหมูสดก็มีการปรับลดลงมาจากเดือนมกราคมถึง 20% อาทิ ราคาหมูสามชั้น จากเดิมกิโลกรัมละ 240 บาท ลดลงเหลือกิโลกรัมละ 200 บาท, หมูเนื้อแดง จากเดิมกิโลกรัมละ 200 บาท ลดลงเหลือกิโลกรัมละ 170 บาท และเนื้อสันนอก จากเดิมกิโลกรัมละ 220 บาท ลดลงเหลือกิโลกรัมละ 180 บาท

นายจักรทอง จรรยากุล อายุ 52 ปี พ่อค้าแผงหมูรายหนึ่ง ในตลาดแม่กิมเฮง เปิดเผยว่า ราคาเนื้อหมูได้มีการปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่หลังเทศกาลตรุษจีนเป็นต้นมา โดยปรับลดลงในทุกๆ ช่วงวันพระ แต่ถึงแม้ว่าจะมีการปรับราคาลดลง ลูกค้าก็ไม่ได้มาซื้อเพิ่มขึ้น บรรยากาศหน้าแผงขายหมูยังคงเงียบเหงา คิดว่าน่าจะเกิดจากภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ประกอบกับค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้าไม่มีกำลังซื้อเนื้อหมูไปรับประทานมากเหมือนในอดีต
สำหรับ เรื่องกลไกตลาด หรือการลักลอบนำเข้าหมู่จากประเทศเพื่อนบ้าน ตนว่าไม่น่าจะใช้สาเหตุหลักที่ทำให้ราคาหมูถูกลง เพราะหมูส่วนใหญ่ก็จะมาจากฟาร์มที่เป็นเครือข่ายของกลุ่มทุนใหญ่ สามารถควบคุมต้นทุนการเลี้ยงหมู่ได้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เกษตรกรทั่วไปจะไปเลี้ยงหมูขายแข่งค่อนข้างเป็นไปได้ยาก ดังนั้นจึงเชื่อว่าอีกไม่นานราคาหมูก็คงจะมีการปรับขึ้นอีกแน่นอน
ข่าว/ภาพ : ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครราชสีมา
