“อุ๊งอิงค์”ยันนายกรัฐมนตรีกัมพูชาพร้อมให้ความร่วมมือปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม น.ส.แพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลัง การประชุมหารือร่วมกับผู้บัญชาการ​เหล่าทัพ การแก้ไขปัญหายาเสพติด ขบวนการคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงปัญหาอื่นๆ ตามแนวชายแดน ว่า​ ได้มาติดตามการปฏิบัติงาน เรื่องการปราบปรามยาเสพติดและขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ทุกภาคส่วนได้มาหารือร่วมกันในวันนี้ ซึ่งยังคงย้ำถึงความร่วมมือของทุกฝ่าย และที่ผ่านมาได้มีการจับกุมผู้กระทำความผิดได้จำนวนมาก แต่ยอมรับว่าการผลิตยาเสพติดยังมีจำนวนมาก จึงต้องขอความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมไปถึงราคายาเสพติดสูงขึ้นและหายากขึ้น ขอชื่นชมทุกหน่วยงาน ที่สามารถทำให้ยาเสพติดลดลง สำหรับผู้ที่ติดยาเสพติด ก็จะได้รับการบำบัด เพื่อกลับคืนเข้าสู่สังคม

ทั้งนี้ ได้มีการรายงานเรื่องการสกัดกั้นยาเสพติดทั้งทางบก​ ทางน้ำ และทางอากาศ ซึ่งยาเสพติดบางประเภทเช่นยาไอซ์​ ยาเค​ จะใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมกับยืนยันว่า ได้มีการทำงานกันอย่างบูรณาการ จึงมีความคืบหน้า และประสบความสำเร็จพอสมควร

สำหรับ ความคืบหน้าการปราบปรามขบวนการคอลเซ็นเตอร์​ หลังพบว่าคนไทยส่วนใหญ่ถูกหลอก จากเมืองปอยเปต​ ประเทศกัมพูชา น.ส.แพทองธาร ​กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกับ พล.อ.ฮุนมาเนต​ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่าพร้อมจะให้ความร่วมมือในเรื่องนี้ และยืนยันว่ากัมพูชา ให้ความร่วมมือ 100% ในขณะที่ผู้ปฏิบัติงาน ก็สามารถประสานงาน ระหว่าง 2 ประเทศ ได้ตลอด นอกจากนี้ยังได้สอบถามไปยัง กสทช. ว่ายังมีปัญหาอะไรอีกหรือไม่ ซึ่งจะต้องมีการขอความร่วมมือกับภาคเอกชนด้วยเช่นกัน ซึ่งจะมีการประชุมอย่างต่อเนื่อง และยืนยันว่า การปราบปรามขบวนการ คอลเซ็นเตอร์​ ดำเนินการได้มากแล้ว แต่ก็อยากให้หมดสิ้นไป ทั้งนี้ได้รับรายงาน จากจเรตำรวจแห่งชาติ ยังมีรายย่อยอยู่ แต่รัฐบาลไทยก็อยากให้เรื่องนี้หมดสิ้นไป จึงต้องขอความร่วมมือกับเอกชน

เมื่อถามว่า มีข้อสังเกตว่า คนไทยถูกหลอกจากฝั่งปอยเปต แต่รัฐบาลใช้มาตรการเข้มข้น​ เฉพาะพื้นที่ชายแดนไทยเมียนมาจังหวัดตาก นายกรัฐมนตรี​ กล่าวยืนยันว่า​ เข้มข้น ซึ่งทางกัมพูชาก็พร้อมที่จะเข้มข้นกับเรา และในการทำงานไม่ได้มีการติดขัดปัญหา ว่าทางกัมพูชาไม่ร่วมมือ และขณะนี้ก็ทราบต้นตอบปัญหามาเยอะแล้ว และกำลังทำให้จบ

เมื่อถามย้ำว่า ความคืบหน้าการปราบปรามขบวนการคอลเซ็นเตอร์​ ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชาน้อยมาก เพราะมีคนไทย ร่วมขบวนการ หลายพันคน แต่ล่าสุด นำออกมาได้แค่ร้อยกว่าคน อีกทั้ง เป็นพื้นที่ที่รัฐบาลกัมพูชาควบคุมแบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งมองว่าไม่น่าจะยุ่งยาก แต่กลับล่าช้ากว่าชายแดน อ.แม่สอด​ จ.ตาก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ไม่ยุ่งยาก ยืนยันว่ากัมพูชาให้ความร่วมมือ โดยคนไทยกลุ่มแรกที่นำกลับมา ก็ถูกดำเนินคดี และยืนยันว่าไม่ได้ติดขัดปัญหาอะไร ค่อยๆ ทำไปเรื่อยๆ มีการประสานงานอยู่

ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะหันไปหา​ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้การเพิ่มเติมชี้แจงเพิ่มเติม โดย พล.ต.อ.ธัชชัย ชี้แจงว่า ปัญหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ฝั่งกัมพูชา นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ตนไปพูดคุย กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติฝั่งกัมพูชา รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ในกระบวนการพูดคุย เพื่อจะขับเคลื่อนต่อไป และทางกัมพูชายืนยันว่า จะมีการระดมกวาดล้าง ซึ่งต้องรอดูช่วงเวลา เนื่องจากกัมพูชามีกฎหมายที่จะต้องออกหมายค้น ในการดำเนินการต่างๆ และยืนยันว่าในทางปฏิบัติยังไม่พบปัญหาอะไร

เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรี มากองทัพบกครั้งแรก ได้มีการหารือกับผู้บัญชาการทหารบกถึงความตึงเครียดชายแดนไทยกัมพูชา โดยเฉพาะพื้นที่ฝั่งกองทัพภาคที่ 2 หรือไม่ น.ส.แพทองธาร​ ระบุว่า วันนี้เรามาพูดคุย เรื่องขบวนการคอลเซ็นเตอร์​ กับยาเสพติด เรื่องที่สื่อมวลชนถาม กองทัพดูแลอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า ได้คุยกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาแล้วหรือไม่ถึงประเด็นดังกล่าว น.ส.แพทองธาร​ ยอมรับว่า​ ยังไม่ได้คุย​ ให้เป็นหน้าที่ของกองทัพทั้ง 2 ประเทศ แต่ตัวนายกรัฐมนตรียังไม่ได้คุย

อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรีปฏิเสธการตอบคำถามถึง กรณีที่มีการตั้งข้อสังเกต ถึงความสัมพันธ์ ระหว่าง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ ฮุนเซน ประธานพฤฒสภากัมพูชา​ จึงทำให้การแก้ไขปัญหาคอลเซ็นเตอร์​ ชายแดนไทย – กัมพูชา​ ก่อนจะถามกลับสื่อมวลชนว่า จะเอาให้ได้เลยไหม

Message us