“อนุทิน” เชิญ ป.ป.ช.-ป.ป.ท.-ตร. จ่อทำ MOU 26 ม.ค.นี้

17 มกราคม 2567 เวลา 15.30 น.  ที่กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังประชุมหารือกำหนดแนวทางป้องกันต่อต้านและปราบปรามการทุจริตการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นปี 2567 ถึงกรณีว่าจ้างมหาวิทยาลัยบูรพาเป็นผู้จัดสอบข้าราชการหรือพนักงานท้องถิ่นปี 2567 ว่า เพราะเป็นหน่วยงานของรัฐ และเข้ามาตามขั้นตอนคัดเลือกเพื่อมาจัดสอบผู้ที่ต้องการเป็นข้าราชการท้องถิ่นมากถึง 500,000 คน ไม่มีทางที่กระทรวงมหาดไทยจะจัดสอบเองได้ และไม่มีสถานที่ในการจัดสอบที่จะทำให้เอื้อต่อการทุจริตใดๆและสามารถควบคุมกำกับดูแลได้ แต่การที่ให้มหาวิทยาลัยมาจัดสอบเพราะมีความเชี่ยวชาญและสามารถจัดสอบได้ตลอดเวลา

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มหาวิทยาลัยบูรพามีการร้องเรียนเรื่องการจัดสอบที่ไม่โปร่งใส ได้มีการพิจารณาในเรื่องนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่ทราบตรงนั้น เพราะเรื่องนี้เป็นการทำงานร่วมระหว่างรัฐกับรัฐ ถ้าทุจริตใครจะได้ประโยชน์ สื่ออย่าเพิ่งไปตั้งคำถามที่จะเกิดเรื่องทุจริตได้ ฟังแล้วไม่สมเหตุสมผล

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวมีการเรียกเก็บเงิน 700,000 บาทเพื่อสอบเข้าเป็นข้าราชการท้องถิ่น นายอนุทิน กล่าวว่า ได้มอบหมายให้รองปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานตรวจสอบเรื่องนี้ โดยตรวจสอบว่าการเรียก 700,000 บาท เพื่อมาเป็นข้าราชการเป็นจริงหรือไม่ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง ข้าราชการจำนวน 6,000 คนจ่ายคนละ 700,000 บาทก็จะเป็นเงิน 4,200 ล้านบาท หากผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยไม่รู้เรื่องเลย เราก็คงเป็นกระทรวงไม่ได้แล้ว

”ทั้งนี้ขอยืนยันคนในกระทรวงมหาดไทยทุกระดับคงไม่มีใครเอาตัวเข้าไปเกลือกกลั้วกับเรื่องเหล่านี้แน่นอน แต่ในเมื่อมีมูลและมีควันเราก็ต้องไปตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ หรืออาจเป็นการแอบอ้างแบบคอลเซ็นเตอร์ มีตัวการที่ไม่เกี่ยวข้องกับกระทรวงแต่ไปแอบอ้าง เช่น ความสัมพันธ์อะไรต่างๆและหลอกลวงกันไป“ นายอนุทิน กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมวันนี้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตร่วมประชุม ประกอบด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ​ หรือ ป.ป.ช  สำนักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐหรือ  หรือ​ ป.ป.ท กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ​ บก. ป.ป.ป. และถ้าเจอคนที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตต้องขึ้นบัญชีดำให้หมด และดำเนินคดีอย่างเข้มงวด หากมีการพบของกลางที่จ่ายเป็นเงินต้องยึดเป็นของแผ่นดินให้หมด

อย่างไรก็ตามในวันที่ 26 ม.ค.นี้จะมีการลงนาม MOU กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังกล่าว เพื่อให้ทุกฝ่ายเกิดความสบายใจ กระทรวงมหาดไทยไม่มีแนวทางหรือความคิดให้เกิดการทุจริตในการสอบข้าราชการท้องถิ่น

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มหาวิทยาลัยราชมงคล เทคโนโลยีธัญบุรีชนะการประกวดราคาในการจัดการสอบแต่ทำไมเปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัยบูรพา นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องสอบถามอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะเป็นเรื่องของรายละเอียดแต่ตนรับทราบมีกระแสข่าวเรื่องจ่ายเงิน 700,000 บาท ตนก็เต้นเป็นเจ้าเข้า โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเพื่อแก้ปัญหา เพื่อแสดงให้เห็นเราต้องต่อต้านการกระทำ ทุจริตเช่นนี้

ด้านนายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมการส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) ชี้แจงสาเหตุที่ต้องเปลี่ยนมหาวิทยาลัย ในดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เป็น มหาวิทยาลัยบูรพา ว่า เป็นกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ที่มีการประมูลกันแล้ว และจากนั้นก็มีการยื่นอุทธรณ์ไปที่กรมบัญชีกลาง ซึ่งกรมบัญชีกลางก็ให้มาดูในเรื่องของการชั่งน้ำหนักของคู่สัญญา โดยมหาวิทยาลัยบูรพามีน้ำหนัก และประสบการณ์ในการดำเนินการจัดสอบแข่งขันมากกว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จึงทำให้กลับมาเป็นมหาวิทยาลัยบูรพา เป็นผู้ชนะการประกวด

เมื่อถามว่า ได้คำนึงถึงประวัติในอดีต  หลังมหาวิทยาลัยบูรพาเคยมีเรื่องร้องเรียนเรื่องทุจริตหรือไม่ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นกล่าวว่า ในเรื่องนี้ คณะกรรมการได้ดูอยู่ ซึ่งคณะกรรมการก็จะพิจารณา และเสนอขึ้นมา ซึ่งในน้ำหนักจะมีอยู่ประมาณ 4-5 ส่วน โดยมีงบประมาณที่ลงไว้อยู่ที่ประมาณ 85 ล้านบาท มีผู้สมัครสอบประมาณ 5 แสนคน และมีตำแหน่งว่างอยู่ที่ 6,100 เศษๆ อัตรา

Message us