เมื่อวันที่ 11 มีนาคม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทน อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เพื่อติดตามสถานการณ์ไฟป่าในเขตพื้นที่ผืนป่าตะวันตก โดยมี นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ นายเผด็จ ลายทอง ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผอ.สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า นายอนันต์ โพธิ์พันธุ์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 หัวหน้าอุทยานและเขตรักษาพันธุ์ในพื้นที่กาญจนบุรีและราชบุรี ชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า (ชุดเสือไฟ) และหน่วยบินกระทรวงทรัพย์ฯ เพื่อร่วมกำหนดแผนการบินให้สอดคล้องกับสถานการณ์ร่วมดับไฟป่าในพื้นที่กาญจนบุรี
นายอรรถพล สอบถามข้อมูลเพื่อติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน และแนวทางการแก้ไขปัญหาช้างป่า รวมถึงได้ติดตามการทำงานของชุดปฏิบัติการเฝ้าระวังผลักดันช้างป่าในพื้นที่ รวมถึงโครงการฟื้นฟูประชากรวัวแดงในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยนายอรรถพลได้กำชับหัวหน้าอุทยานและเขตรักษาพันธุ์ให้เพิ่มความเข้มในการปฏิบัติการดับไฟป่า ต้องมีปฏิบัติการลาดจะเวนและร่วมดับไฟป่าในทุกจุดให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันมิให้เกิดการลุกลามในแต่ละพื้นที่ ส่วนเรื่องสัตว์ป่าก็ต้องเตรียมรับมือการเคลื่อนย้ายถิ่นของสัตว์ป่าที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่า โดยเฉพาะในส่วนพื้นที่รอยต่อป่ากับชุมชนต้องประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านได้รับทราบสถานการณ์ไฟป่าเพื่อร่วมบูรณาการดับไฟป่าในทุกชุมชนอีกด้วย
นายอรรถพล เปิดเผยว่า หลังจากที่มีสถานการณ์ไฟป่า ตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทส. ได้มอบหมายให้ตนมาบัญชาการ สนับสนุนในการแก้ไขปัญหา จึงระดมสรรพกำลัง ทั้งเจ้าหน้าที่ดับไฟป่ากรมอุทยานฯ กรมป่าไม้ และชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่าของทั้งสองกรม รวมผนึกกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น และฝ่ายความมั่นคงของจังหวัดกาญจนบุรี
นอกจากนี้ ยังมีเฮลิคอปเตอร์สนับสนุนในการทิ้งน้ำดับไฟ และส่งกำลังบำรุง ส่งเสบียงต่างๆ ล่าสุดสถานการณ์เริ่มคลี่คลายไปมากแล้ว จุดความร้อน (Hotspot) ลดลงอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะมีจุดสะสมค่อนข้างสูงที่อุทยานฯ เขื่อนศรีนครินทร์ อุทยานฯ ไทรโยค อุทยานฯ ลำคลองงู และอุทยานฯ ทองผาภูมิ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ก็ตาม
ล่าสุดสภาพภูมิอากาศเอื้อต่อการทำฝนเทียม โดยกรมฝนหลวงและการบินเกษตรจะบินเข้าทำฝนเทียมในพื้นที่ และหากสามารถทำฝนหลวงช่วยได้ เชื่อว่าสถานการณ์จะยุติลงได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี ที่ลดลงไป 30% จากสถานการณ์ไฟป่า กลับมาดีขึ้น
สำหรับ ภาพรวมสถานการณ์ไฟป่า ทั้งประเทศมีจุดความร้อน (Hotspot) สะสม ประมาณ 80,000 จุด โดยอยู่ในพื้นที่เขตป่าอนุรักษ์ ประมาณ 28,000 จุด อยู่ในเขตป่าสงวนฯ 21,000 จุด และที่เหลือกว่า 20,000 จุด อยู่ในพื้นที่เกษตรนอกเขตป่าและในเขตป่า ซึ่งจะเห็นได้ว่าสาเหตุหลักของการเกิดไฟป่าเกิดจากการทำเกษตรในพื้นที่ป่า หาของป่า ล่าสัตว์ป่า และปศุสัตว์ในเขตป่า ดังนั้นจะต้องทำการจัดระเบียบอย่างจริงจังมากขึ้น ถึงแม้จะมีมาตรการในการบังคับใช้กฎหมาย แต่ในพื้นที่ป่าลึก เจ้าหน้าที่ก็ทำการจับกุมผู้กระทำผิดได้ยาก และอีกสาเหตุคือ ผลจากการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดและเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ทำให้มีการจุดไฟกลั่นแกล้ง
นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า ได้รายงานสถานการณ์ไฟป่าว่า วันนี้มีรายงานจำนวนจุดความร้อน (Hotspot) สะสมในจังหวัดกาญจนบุรี พบ 6,173 จุดแยกเป็นสถานีควบคุมไฟป่าสลักพระ-เอราวัณ 360 จุด สถานีควบคุมไฟป่าเขื่อนศรีนครินทร์ 291 จุด สถานีควบคุมไฟป่าไทรโยค 419 จุด สถานีควบคุมไฟป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านทิศตะวันตก 2 จุด อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ 1,332 จุด อุทยานแห่งชาติเอราวัณ 324 จุด อุทยานแห่งชาติไทรโยค 513 จุด อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ 417 จุด อุทยานแห่งชาติเขาแหลม 441 จุด
อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ 1 จุด อุทยานแห่งชาติลำคลองงู 357 จุด หน่วยควบคุมพื้นที่เตรียมการประกาศเขตห้ามล่าสัตว์ป่าศรีสวัสดิ์ 72 จุด เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำละหว้า-ถ้ำดาวดึงส์ 27 จุด เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ 832 จุด เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก 776 จุด เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอุทยานสมเด็จพระศรีนครินทร์ 9 จุด พื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่มีจุดความร้อนสูงสุด 5 อันดับแรกของ จ.กาญจนบุรี อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ 1,623 จุด เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ 1,037 จุด อุทยานแห่งชาติไทรโยค 931 จุด เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก 779 จุด อุทยานแห่งชาติเอราวัณ 479 จุด
ขณะที่ นายเผด็จ ลายทอง ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ได้รายงานสถานการณ์ช้างป่าว่า ด้านสถานการณ์ช้างป่า ขณะนี้มีคณะกรรมการช้างแห่งชาติ ซึ่งกำกับดูแลในภาพรวม 16 กลุ่มป่าทั่วประเทศ รวมถึงการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่า ซึ่งได้เตรียมใช้กฎหมายของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) มาเป็นแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ รวมถึงได้ศึกษาถึงการควบคมประชากรช้างร่วมกับสำนักงานวิจัยแห่งชาติ (วช.) ส่วนการควบคุมช้างที่มีพฤติกรรมเกเรให้อยู่ในพื้นที่จำกัด ทั้งนี้ส่วนของการท่องเที่ยวทางทะเลได้สั่งกำชับให้ทำความเข้าใจผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว ในการจะลงดำน้ำจะต้องมีทักษะเบื้องต้นเพื่อป้องกันความเสียหายของปะการัง
ทั้งนี้ หลังการประชุม ในระหว่างรับประทานอาหาร นายอรรถพล เจริญชันษา รักษาการ อธิบดีกรมอุทยานฯ มาตรวจราชการตรวจเยี่ยมที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ได้ร่วมเล่นกีต้าร์กับวงสลักพระแบรนด์ พร้อมร้องเพลงขับกล่อมผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างเป็นกันเอง ถือเป็นการเพิ่มขวัญกำลังใจให้ผู้ร่วมปฏิบัติการ กรมอุทยานดับไฟป่าที่ลุกลามในพื้นที่ป่าตะวันตก ซึ่งนายอรรถพล ได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่ส่งเจ้าหน้าที่มาปฏิบัติการดับไฟป่า ทุกคนที่มาร่วมมือร่วมใจทุ่มเทสรรพกำลังร่วมสกัดและดับไฟป่าจนบรรลุผลสำเร็จ ไฟป่าเริ่มลดลง ขอเป็นกำลังใจให้แก่คณะเจ้าหน้าที่ยังปักหลักเพื่อดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป
ข่าว/ภาพ : ปิยรัชต์ จงเจริญ ผู้สื่อข่าวจังหวัดกาญจนบุรี
