หย่าศึก”หาดนุ้ย”ถอยคนละก้าวลดความขัดแย้งรอตรวจสอบสิทธิการถือครองที่ดิน

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม นายเฉลิมพงศ์ แสงดี ส.ส.ภูเก็ต พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย พล.ร.ต.ทินกร กาญจนเตมีย์ รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดภูเก็ต ,นายสรศักดิ์ รณะนันทน์ ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้ภูเก็ต, ตัวแทน สปก., พ.ต.อ.คุณเดช ณ หนองคาย ผกก.สภ.กะรน, ตัวแทนที่ดินจังหวัดภูเก็ต, ตัวแทนนายอำเภอเมืองภูเก็ต,กำนันผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่หาดนุ้ย ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ลงพื้นที่หาดนุ้ยเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างชาวบ้านเกี่ยวกับที่ดินทำกิน

นายเฉลิมพงศ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อติดตามแก้ปัญหากรณีข้อพิพาทในที่ดินแปลงหาดนุ้ย เนื้อที่ 18 ไร่เศษ กับ พื้นที่ สปก. 68 ไร่เศษ หลังเกิดเหตุทำร้ายร่างกายกันจนเป็นข่าวออกไปในวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ต เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นอีก รวมทั้งเพื่อให้เกิดความชัดเจนในเรื่องแนวเขตที่ดินทั้ง 2 แปลงดังกล่าวที่มีปัญหากันมายาวนาน โดยมีเคสตัวอย่างชาวต่างชาติทำร้ายหมอ ณ หาดยามู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จนโลกโซเชียลแชร์และมีการเรียกร้องทวงคืนชายหาดในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ก็มีเคสหาดนุ้ยที่พิพาทกันเรื่องที่ดินและการครอบครองสิทธิ์ จนถึงขั้นมีการทะเลาะวิวาทยกพวกตีกัน ระหว่างเดินทางลงไปตรวจสอบพื้นที่บริเวณชายหาดด้านล่างพร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด โดยมีคู่กรณีทั้ง 2 กลุ่มรวมตัวกัน

นายสิงหา เพ็งแก้ว หรือจ่าแหลม ผู้อ้างกรรมสิทธิ์การครอบครองที่ดินแปลงหาดนุ้ย เนื้อที่ 18 ไร่เศษ และ นายชโลธร โชติพนัง หรือ บอย ผู้จัดการมรดก ของนายธนา โชติพนัง (บิดา) ผู้ครอบครอง สปก.4-01 กลุ่มที่ 130 แปลงที่ 2 เนื้อที่ประมาณ 68 ไร่เศษ ซึ่งมีแนวเขตติดกัน มายืนยันสิทธิของแต่ละฝ่าย และมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กะรน สภ.ป่าตอง เจ้าหน้าที่เทศกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมดูแลความเรียบร้อย

สำหรับ การลงพื้นที่ครั้งนี้ คู่กรณีต่างก็ได้มีการสำเสนอข้อมูลของแต่ละฝ่ายในการเข้ามายังที่ดินทั้ง 2 แปลง ที่มีการอ้างสิทธิ์ ในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงถึงขั้นตอนในการดำเนินการ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในเรื่องของแนวเขต เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากระทบกระทั้งระหว่างกัน

เบื้องต้นได้ข้อสรุปว่า ทาง สปก. มารังวัดแนวเขต ร่วมกับป่าไม้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในวันที่ 5 มิถุนายนนี้ เพื่อชี้แนวเขตที่ชัดเจน ว่า บริเวณใดบ้างที่อยู่ในเขตป่าไม้ที่มีการตรวจยึดไว้ ประมาณ 18 ไร่เศษ และอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินคดี และ เขต สปก. พื้นที่ 68 ไร่ โดยในระหว่างนี้ ขอให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายอยู่ในที่ตั้งของตัวเอง เพื่อไม่ให้มีการปะทะกัน และขอให้ผู้อ้างสิทธิ์ สปก. รื้อเชือกที่นำมากั้นแนวเขตออก ซึ่งทาง 2 ฝ่ายยอมรับมติดังกล่าว และ ต่างฝ่ายจะอยู่ในที่ตั้งของตัวเอง ส่วนคดีความต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้ว่ากันไปตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งไม่อยากให้เกิดภาพลักษณ์ที่เสียหายกับเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก ขอให้ทุกฝ่ายใช้สิทธิอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ด้าน พล.ร.ต.ทินกร กาญจนเตมีย์ รอง ผอ.รมน.จังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการลงพื้นที่ “หาดนุ้ย”ว่า สืบเนื่องจากกรณีข้อพิพาทในเรื่องแนวเขตที่ดิน ระหว่างผู้อ้างสิทธิ์ครอบครองที่ดิน 18 ไร่ และ ผู้อ้างสิทธิ์ที่ดิน สปก. 68 ไร่ ซึ่งมีแนวเหตุติดกัน ที่บริเวณหาดนุ้ย ต.กะรน จนเกิดเหตุทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายกันขึ้น ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ต

ทั้งนี้ ทางผู้ว่าฯ ภูเก็ต มีความห่วงใยในเรื่องนี้ จึงมอบหมายให้ลงมาดูพื้นที่ ได้ให้นโยบายว่าให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ในครั้งมีทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ , ที่ดินจังหวัด และ ปฎิรูปที่ดินจังหวัดได้ให้ข้อมูล ถึงแนวทางในการดำเนินการแก้ปัญหาของที่ดินทั้ง 2 แปลง เนื่องจากพบว่า ยังมีความไม่ชัดเจน จึงได้มีการหารือร่วมกัน และได้ข้อยุติในเบื้องต้นว่า ให้ต่างฝ่ายอยู่ในที่ตั้งของตัวเอง จนกว่า จะมีความชัดเจนในเรื่องของแนวเขต ซึ่งทางสปก.และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้ามาทำการรังวัดในวันที่ 5 มิถุนายนนี้

ด้าน ตัวแทน สปก.ภูเก็ต กล่าวว่า ในวันที่ 5 มิถุนายนนี้ จะมีการลงพื้นที่เพื่อทำการรังรังวัดแนวเขต และ คู่กรณีที่มีการกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์การครอบครองในเขตของ สปก. เพื่อนำชี้ว่า พื้นที่อยู่จุดไหน เนื่องจากแผนที่รูปแปลงของ สปก.นั้นมีความชัดเจนอยู่แล้ว เพียงแต่ขอให้ผู้อ้างกรรมสิทธิ์ได้เข้ามาชี้แจงพื้นที่ของตัวเอง เพื่อจัดทำแผนที่ข้อพิพาทด้วย

“สำหรับ ที่ดิน สปก.68 ไร่นั้น เดิมผู้ได้รับหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฎิรูปที่ดิน (สปก.) ได้เสียชีวิต และ ทางทายาทได้มาแสดงความจำนงขอรับมรดกในที่ดินแปลงดังกล่าว เมื่อปี 2562 แต่มีกระบวนการร้องคัดค้าน จึงยังไม่สามารถจัดพื้นที่ให้ได้ โดยขณะนี้ทาง สปก. ยังอยู่ในระหว่างการจัดทำแผนที่ข้อพิพาท แต่มั่นใจว่าหลังจากนี้เมื่อทราบว่ามีใครอยู่จุดไหนบ้างในที่ดินดังกล่าว ก็น่าจะได้ข้อยุติในเรื่องของกรรมสิทธิ์”ตัวแทนสปก.ภูเก็ตกล่าว

ข่าว/ภาพ : อชัถยา ชื่นนิรันดร์ ผู้สื่อข่าวจังหวัดภูเก็ต



Message us