ภัยสงคราม!แรงงานโคราชในอิสราเอลแจ้งอยากกลับบ้านจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีการสู้รบกันระหว่างประเทศอิสราเอล กับกลุ่มฮามาส ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะแรงงานไทยที่ไปทำงานอยู่ที่ประเทศอิสราเอล ล่าสุดได้รับรายงานจากกระทรวงแรงงานว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว จำนวน 18 ราย และมีหลายคนที่ยังติดต่อไม่ได้ ทางรัฐบาลไทยอยู่ระหว่างประสานงาน เพื่อที่จะนำเครื่องบินไปอพยพแรงงานไทยกลับประเทศเป็นการด่วนอยู่ในขณะนี้นั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา นายอาจศึก ชนะหาญ รักษาราชการแทนจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การสู้รบกันที่ประเทศอิสราเอลขณะนี้ ทำให้ญาติของแรงงานไทยที่ไปทำงานอยู่ที่ประเทศอิสราเอล รู้สึกเป็นห่วงในความปลอดภัยของญาติมาก โดยแรงงานชาวโคราช ที่ไปทำงานในประเทศอิสราเอล ที่อยู่ในทะเบียนของสำนักงานจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา ขณะนี้ มีอยู่ทั้งหมด จำนวน 2,163 ราย ทั้งหมดไปทำงานในภาคการเกษตร และอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยคือพื้นที่ตอนใต้ของประเทศอิสราเอล มากกว่า 1,000 ราย

ทั้งนี้ ในจำนวนนี้ได้รับการยืนยันจากกระทรวงต่างประเทศแล้วว่า มีอยู่ 1 ราย ที่ถูกกลุ่มอามาสควบคุมตัวไป คือนายพงษธร ขุนศรี อายุ 25 ปี ชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ส่วนที่เหลือขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามข้อมูลจากกระทรวงแรงงาน ขณะเดียวกันวันนี้ (10 ต.ค.) ทางสำนักงานจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา ได้ตั้งกลุ่มไลน์ชื่อว่า “ติดตามคนโคราชในอิสราเอล” ขึ้นมา เพื่อเป็นกลุ่มเฉพาะกิจในการแจ้งข้อมูลแรงงานไทยชาวโคราช ทั้งจากสำนักงานจัดหางานฯ, ญาติ และแรงงานชาวโคราชในอิสราเอล เพื่อเป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารกัน เนื่องจากข้อมูลกระจัดกระจายอยู่ในโซเชี่ยลเป็นจำนวนมาก ทำให้ก่อนหน้านี้หลายคนสับสนไม่รู้ว่าจะไปสื่อสารกันในช่องทางใดได้บ้าง

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีสมาชิกในกลุ่มมากกว่า 130 รายแล้ว มีการแจ้งในไลน์กลุ่มเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะแรงงานชาวโคราชในอิสราเอล ส่วนใหญ่แจ้งว่าปลอดภัยดี และทุกคนมีความประสงค์จะกลับประเทศไทย เพราะถ้าอยู่อิสราเอลกลัวจะไม่ได้รับความปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีเบอร์โทรศัพท์สายด่วนเฉพาะกิจ 095-9607800 ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยรับสายตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ญาติติดต่อสอบถามได้ ซึ่งขณะนี้ทางสำนักงานจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา จะได้รวบรวมข้อมูลว่ามีแรงงานชาวโคราช ไปอยู่จุดไหนบ้าง และมีใครต้องการกลับประเทศไทยบ้าง เพื่อที่จะได้ส่งข้อมูลต่อให้กระทรวงแรงงาน และรัฐบาลไทยเข้าไปให้การช่วยเหลือต่อไป

ข่าว/ภาพ : ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครราชสีมา

Message us