ส่องขุมกำลังแชมป์เก่า”เพื่อไทย”กับศึกเลือกตั้งเมืองปทุมธานี

โดย…พงศ์พัทธ์ วงศ์ยะลา ผู้สื่อข่าวจังหวัดปทุมธานี รายงาน

หลังราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการ เลือกตั้ง ส.ส. ที่มีสาระสำคัญ คือ กำหนดให้มีจำนวน 500 คน แบ่งเป็น ส.ส.แบ่งเขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน โดยใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ และการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แบบสูตรหาร 100 และมีการแบ่งเขตเลือกตั้งคำนวณสัดส่วนใหม่

พื้นที่จังหวัดปทุมธานี เป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำคัญทางการเมือง หลายพรรคการเมืองจ้องเข้ามาช่วงชิงหวังแย่งชิงฐานอำนาจทางการเมือง มีแนวโน้มแข่งขันกันดุเดือดไม่แพ้จังหวัดอื่นๆ พรรคเพื่อไทยในฐานะแชมป์เก่าส่งผู้สมัครลงครบทุกเขตทุกคนมีดีกรี เป็นอดีต ส.ส.กันเกือบทุกเขต ส่วนว่าที่ผู้สมัครหน้าใหม่ก็ล้วนเป็นนักการเมืองท้องถิ่นมีชื่อเสียงมีผลงานติดตาประชาชนในพื้นที่

จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับกรุงเทพมหานคร และเป็นเขตพื้นที่เลือกตั้งสำคัญของพรรคเพื่อไทย การเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะมาถึงในเร็ววันนี้ คาดว่าจะมีขึ้นกลางปี 2566 นี้ มาส่องดูขุมกำลังของพรรคเพื่อไทยในจังหวัดปทุมธานีทั้ง 7 เขต
เขต 1.นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล ที่ครองแชมป์มายาวนาน เป็นถึงอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ขุมกำลังหลักอยู่ที่อำเภอลาดหลุมแก้ว ฐานเสียงยังเหนียวแน่นในพื้นที่

เขต 2.นายศุภชัย นพขำ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน นายกแป๊ะ นายสายัณ นพขำ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลบ้านกลาง เป็น ส.ส.แชมป์เก่า ที่ลงพื้นที่มาตลอดยังคงยืนเบอร์ 1 คาดว่าคงไม่มีพลิกล็อก รักษาเก้าอี้เอาไว้ให้กับพรรคเพื่อไทยได้ในการเลือกตั้ง

เขต.3 นายยุทธศักดิ์ ชูประเสริฐ นักการเมืองใหม่แกะกล่องที่เปิดตัวเดินลงพื้นที่มาหลายปีต่อเนื่องที่อาสาอยากจะเข้ามาพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่

เขต 4.นายสุทิน นพขำ อดีตส.ส.ปทุมธานี น้องชายแท้ๆ นายกแป๊ะ นายสายัณ นพขำ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลบ้านกลาง ครั้งนี้กลับมาลงสนามสู้ศึกอีกครั้ง ซึ่งขุมกำลังบ้านใหญ่นี้ไม่ต้องห่วงสู้แบบตายเป็นตายแน่นอน

เขต 5.นายชัยยันต์ ผลสุวรรณ์ แชมป์เก่าเขตนี้ยังคงเหนียวแน่นกับพรรคสยบข่าวลือต่างๆ ที่จะย้ายพรรค ลงพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องเป็นกมธ.การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่มาโดยตลอด

เขต 6.นายชนภัทร นันทกาวงศ์ ดีกรีไม่ธรรมดาเป็นลูกชายนายรังสรรค์ นันทกาวงศ์ นายกเทศมนตรีเมืองบึงยี่โถ และยังเป็น ส.อบจ.ปทุมธานี ในพื้นที่ถือว่า คะแนนเสียงเหนียวแน่น
เขต 7. นายยงยุทธ มั่นบุปผชาติ นายกเทศมนตรีตำบลลำลูกกา ที่เตรียมพร้อมลาออกลงมาต่อสู้ในสนามการเมืองใหญ่และมีฐานเสียงที่มั่นในพื้นที่ลำลูกกา

นายศุภชัย นพขำ

นายศุภชัย นพขำ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีแต่กระแสพรรคเพื่อไทยในจังหวัดปทุมธานี ระส่ำแตกร้าว ตนเองยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เราทำการการเมืองมาโดยตลอด พรรคเป็นคนดูแลในเรื่องวางตัวผู้สมัครที่เหมาะสมและเชื่อว่า การส่งทีมคนรุ่นใหม่และอดีตนักการเมืองท้องถิ่นลงสู้ศึกในครั้งนี้ เป็นการเพิ่มศักยภาพให้ทีมเพื่อไทยปทุมธานีเข้มแข็งขึ้น ผู้ที่ผ่านการคัดเลือก เรามีความมั่นใจว่าจะเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนที่ดี สามารถทำงานร่วมกับพี่น้องประชาชนได้ ยึดมั่นอุดมการณ์ของพรรค นำความต้องการของประชาชน มาร่วมสร้างสรรค์เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทยได้ ซึ่งทุกคนเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถหลากหลาย มีทั้งที่เป็น ส.ส.ปัจจุบันนักการเมืองท้องถิ่น และบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ เพื่อมาร่วมอุดมการณ์ของพรรคเพื่อไทย เรามีความพร้อมทั้งตัวบุคคล พร้อมทั้งนโยบาย เพื่อมาทำงานให้พี่น้องประชาชน

“สังคมไทยมีความคาดหวังอยากได้ผู้นำประเทศคนใหม่จากการเลือกตั้ง เพราะตลอด 8 ปีที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นว่า ผู้นำที่มาจากเผด็จการและสืบทอดอำนาจ ไม่มีความรู้ความสามารถที่จะแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้ ทั้งปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ปัญหาปากท้อง การทุจริตคอรัปชั่น มั่นใจว่า ว่าที่ผู้สมัครส.ส.ทุกเขตมีคุณสมบัติและความสามารถที่จะกวาด ส.ส.ในนามพรรคเพื่อไทยครบทุกเขตในการเลือกตั้งครั้งนี้ แลนด์สไลด์ทั้งปทุมธานีอย่างแน่นอน นายศุภชัย”กล่าวอย่างมั่นใจ

อีกไม่นานเกินรอเมื่อปี่กลอนการเลือกตั้งดังขึ้น เสียงของประชาชนจะเป็นผู้กำหนดชะตาของผู้แทนที่เขาเลือกเข้าไปทำหน้าที่ในสภา ผลงานและการเข้าไปอยู่ในใจประชาชนจะเป็นคำตอบว่า ผู้แทนคนนั้นเป็นคนที่ใช่สำหรับพวกเขานั่นเอง

Message us