“สุริยะ”บุกหมอชิตตรวจความพร้อมคนขับจับเป่าหาแอลกอฮอล์

เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ที่สถานีขนส่งหมอชิต นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เป็นประธานเปิดงานรณรงค์โครงการปีใหม่ปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 จัดโดย มูลนิธิเมาไม่ขับ ร่วมกับบริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุเมาไม่ขับ ภาครัฐ ภาคเอกชน จัดกิจกรรมรณรงค์ปีใหม่ปลอดภัยร่วมใจลดอุบัติเหตุทางถนน

 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม กล่าวว่า จากอุบัติเหตุทางถนนจากช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่มีมากขึ้น โดยมูลนิธิเมาไม่ขับ ได้เก็บข้อมูลเหยื่อเมาแล้วขับที่ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ จากสถิติอุบัติเหตุเทศกาลปีใหม่ ปี 2566 พบว่ามีคนไทยเสียชีวิต 317 คน บาดเจ็บ 2,437 คน สาเหตุเกิดจากการเมาแล้วขับ ขับรถเร็ว ง่วงแล้วขับ และขับรถตัดหน้ากระชั้นชิด ไม่สวมหมวกกันน็อก การฝ่าฝืนสัญญาณ ซึ่งกฎหมายเมาแล้วขับมีโทษน้อยอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุสูง

นายสุริยะ กล่าวว่า มูลนิธิเมาไม่ขับ จะขอให้กระทรวงคมนาคม ร่วมกันร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเพิ่มโทษกรณีเมาแล้วขับส่งผลให้มีผู้ประสบภัยถึงชีวิต เพื่อลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุได้อีกทางหนึ่ง เมื่อร่างกฎหมายแล้วเสร็จจะเสนอหนังสือดังกล่าว ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พิจารณา หากมีการนำข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจ เพื่อออกเป็นกฎหมายเคร่งครัดขึ้น

นอกจากนั้น ฝากถึงผู้ขับขี่รถสาธารณะเป็นบุคคลที่ต้องรับผิดชอบชีวิตผู้อื่นเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องมีมาตรฐานในการขับขี่รถที่สูงกว่าผู้ขับขี่รถทั่วไป การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แม้แต่เพียงเล็กน้อยถือว่าเป็นเจตนาที่จะละเมิดกฎแห่งความปลอดภัย ถือว่าความผิดสำเร็จแล้วฐานดื่มสุราในขณะปฏิบัติหน้าที่ และผิดกฎหมายขนส่งโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับ 2,000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

“นอกจากนี้ กระทรวงได้ตรวจความพร้อมและกำชับให้ทุกหน่วยงานตรวจเรื่องความปลอดภัย เช่น การเสพยาเสพติด การเป่าวัดระดับแอลกอฮอล์ รวมถึงช่วงที่คนขับมีอาการป่วยจะกินยาก่อนปฏิบัติงานทำให้เกิดอาการง่วงซึม เป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ จึงเพิ่มการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายผู้ขับขี่ อีกทั้งได้สั่งการเจ้าหน้าที่ตรวจพื้นถนนในพื้นที่ภูมิภาค เพราะเป็นเส้นทางเกิดอุบัติเหตุสูงด้วย ซึ่งได้ตั้งเป้าลดการเกิดอุบัติเหตุช่วง 7 วันอันตรายให้น้อยลงกว่าปีก่อนได้” นายสุริยะกล่าว

ด้านนพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวว่า จากนโยบายเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. ของรัฐบาลว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศเป็นเรื่องที่ดี แต่อีกด้านหนึ่งก็เพิ่มคนเมาแล้วขับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ใด้ มูลนิธิเมาไม่ขับ จึงขอให้รัฐบาลช่วยพิจารณามาตรการที่จะลดคนเมาแล้วขับ ดังนี้

1.ขอให้มีกฎหมายกำหนดให้มีการตรวจแอลกอฮอล์ทุกครั้ง เมื่อเกิดอุบัติเหตุจนมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต และกำหนดความผิดของเจ้าหน้าที่กรณีละเลยการปฏิบัติไม่ตรวจแอลกอฮอล์

2.ขอให้พิจารณาแก้ไขกฎหมายเพื่อเพิ่มบทลงโทษผู้ที่เมาแล้วขับชนคนตายให้มีโทษจำคุกจาก 3-10 ปี เป็น 12-15 ปี เพื่อหลีกเลี่ยงการรอลงอาญา และ 3.ขอให้พิจารณากฎหมายกำหนดให้ผู้ประกอบการสถานบันเทิงต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบ กรณีปล่อยปละละเลยให้ผู้มาใช้บริการเมาแล้วขับไปชนคนจนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

“มูลนิธิเมาไม่ขับในฐานะองค์กรสาธารณประโยชน์ที่ทำงานสนับสนุนการรณรงค์และการบังคับให้กฎหมายเมาไม่ขับมาตั้งแต่ปี 2539 เข้าใจว่ารัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว แต่การดำเนินนโยบายใดนโยบายหนึ่งย่อมมีทั้งผลดีและผลกระทบ การเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. เป็นการเพิ่มคนเมาแล้วขับบนท้องถนน จึงขอเสนอมาตรการลดปัญหาเมาแล้วขับจากนโยบายให้กับท่านนายกรัฐมนตรีพิจารณาด้วย” นพ.แท้จริงกล่าว

Message us