นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวในงานประชุมสามัญประจำปี 2566 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด สมุทรปราการ ที่ห้องประชุมใหญ่ เทศบาลตำบลบางปู จังหวัดสมุทรปราการ และกล่าวในหัวข้อ “การบริหารธุรกิจเพื่อความอยู่รอด” โดยกล่าวถึงปัญหาใหญ่ในการทำธุรกิจในปัจจุบัน ว่า SMEs การขาดการสนับสนุนจากภาครัฐ ในทุกมิติโดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดแต้มต่อ นายสุพันธุ์สะท้อนว่าปัจจุบันเป็นเรื่องยากมากที่ทุนไทย หรือ SMEs จะได้ BOI เพราะข้อกำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆทำให้ SMEs ไทย ไม่สามารถได้สิทธิประโยชน์ใน BOI เลย
ทั้งนี้ จึงควรที่จะแก้ไขข้อกำหนดและกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อให้แต้มต่อกับ SMEs และอุตสาหกรรมไทย และต้องมีกลไกบางอย่างที่เข้ามาช่วยเหลือการลงทุนของทุนไทยในต่างประเทศ โดยยกตัวอย่าง องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) ว่าไทยควรมีองค์กรประเภทดังกล่าวที่เมื่อนักลงทุนชาวไทยต้องการจะไปลงทุนในต่างประเทศ สามารถเข้าไปขอข้อมูลต่างๆที่กี่ยวข้องกับการลงทุนในประเทศนั้น ทั้งข้อกฎหมาย ข้อกำหนดต่างๆ โดยที่ไม่ต้องให้ผู้ประกอบการไปควานหาเอาเอง
นอกจากนี้ สิ่งที่เป็นปัญหาสำหรับคนทำธุรกิจในช่วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะช่วงโควิด – 19 คือปัญหาหนี้ โดยเฉพาะหนี้เสียที่อยู่ในระบบทำให้ผู้ประกอบการหลายคนไม่สามารถที่จะกู้ใหม่ได้ นายสุพันธุ์เสนอให้รัฐต้องเข้ามาช่วยด้วยการชำระดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในช่วงโควิดของหนี้รหัส 21 ให้ และพักหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยไว้อีก 3 ปี เพื่อที่จะสามารถนำหนี้ที่ได้รับการชำระดอกเบี้ยและเบี้ยปรับไปแล้วมารีไฟแนนซ์ หรือ ซื้อขายแลกเปลี่ยนหนี้ได้ เพื่อให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบในช่วงโควิด ที่ต้องปิดโรงงานต่างๆ สามารถกลับมาทำธุรกิจได้ เพราะกิจการต่างๆที่ได้รับผลกระทบในช่วงโควิดไม่ได้เกิดจากความผิดของภาคเอกชน แต่เกิจากมาตรการของรัฐ รัฐจึงควรเข้ามาเยียวยาในเรื่องดังกล่าว พร้อมทั้งยืนยันว่า การกระทำนี้ไม่ใช้การยกเลิกระบบเครดิตบูโร แต่เป็นการบริหารจัดการหนี้ใหม่
นายสุพันธุ์ กล่าวว่า เพื่อที่จะให้ SMEs ไทยอยู่รอดจะต้องมีการเพิ่มแต้มต่อโดยจัดสรรพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมสำคัญๆ เช่น EEC เพื่อสร้างเป็นคลัสเตอร์สำหรับ SMEs แต่ละกลุ่ม เช่นกลุ่มเครื่องสำอางค์ กลุ่มอาหารเสริม โดยรัฐช่วยลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ รวมถึงส่วนที่จะช่วยอำนวนยความสะดวกทั้งในด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการจดจัดตั้ง ขึ้นทะเบียนขอใบอนุญาตต่างๆในที่เดียวเพื่อเปิดโอกาสให้ SMEs สามารถแข่งขันกับทุนขนาดใหญ่ต่อไปได้
นายสุพันธุ์ย้ำว่า อุปสรรคใหญ่สำหรับผู้ประกอบการไทยและคนตัวเล็กในปัจจุบันคือกฎหมายและข้อจำกัดรวมถึงระเบียบต่างๆ ที่ควรจะต้องพักใช้เอาไว้ก่อนเพื่อที่จะให้ประชาชนทำมาหากินได้ เช่นกฎระเบียบบางข้อของ อย. หรือ ใบอนุญาตประกอบกิจการบางอย่างที่เป็นช่องว่างให้กิดการคอรัปชั่น ถ้าพักใช้กฎหมายเหล่านี้ได้เร็ว ก็จะทำให้เศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวและเดินหน้าได้เร็วยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ นายสุพันธุ์ จะเดินสายโรดโชว์ “SMEs สร้างไทย” ไปจังหวัดกลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ สมุทรสาคร นนทุบรี ปทุมธานี และพบกลุ่มผู้ประกอบการเครื่องสำอาง
